Khao ร้านอาหารไทยร่วมสมัย โดยมี ‘คุณตุ่น – ประดินันท์ อัครชิโนเรศ’ เป็นผู้ผสานความคิดสร้างสรรค์ในแบบผู้บริหารรุ่นใหม่ ทำให้ร้าน Khao สาขาเอกมัย สามารถคว้ารางวัลมิชลิน สตาร์ 1 ดาว มาครองได้สำเร็จเป็นปีที่ 2 ตั้งแต่ปี 2020 และ 2021 ได้ฉลองเปิดตัวสาขาใหม่ สาขาเพลินจิต จัดคอร์สุดพิเศษ Khao Tasting menu ที่รวบรวมอาหารไทยจานเด็ด ยอดนิยมของร้านกว่า 10 เมนู มารังสรรค์เสิร์ฟให้ลูกค้าได้ทานแบบครบรส ในบรรยากาศอบอุ่น ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ที่ทางร้านออกแบบเป็นอย่างดี
Khao ร้านอาหารไทย ระดับมิชลินสตาร์
Khao Tasting menu มีทั้งหมด 4 ชุด 4 ราคา เริ่มต้นที่ 950, 1,350, 1,700 และ 2,300 บาท (ราคายังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยเสิร์ฟเริ่มต้นที่ 11 เมนู ถึง 17 เมนู
วันนี้ จะพาไปดูเมนูในชุดที่ใหญ่ที่สุดของทางร้าน ในราคา 2,300 บาท
เริ่มต้นด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยเซ็ตแรก ขนมจีบไทยไส้ไก่ แป้งแน่น รสชาติกลมกล่อม ปั้นสิบปลา ฉ่ำน้ำ รสชาติกลมกล่อม หอมเครื่องเทศ ช่อม่วงไส้หมู แป้งนุ่มหนึบ รสชาติกำลังดี
ต่อด้วย หมี่กรอบ-ยำส้มโอ หอมกลิ่นโชยเตะจมูก ที่เสิร์ฟมาพร้อมเนื้อกุ้งแน่นเด้ง เข้ากับน้ำยำหอมๆ รสกลมกล่อม
ยำเนื้อย่างออสเตรเลียองุ่นแดงไร้เมล็ด เนื้อย่างหอม นุ่ม ย่างกับใบสะระแหน่ เสิร์ฟกับน้ำยำรสเปรี้ยว เบรกความเปรี้ยวด้วยรสหวานจากองุ่น
ทอดมันหินแกรนิต ทอดมันกุ้งสูตรพิเศษของร้านข้าว ที่เชฟวิชิตรังสรรค์ขึ้น โดยนำเนื้อกุ้งมาปรุงรสด้วยหมึกดำ ผสมกับปลาหมึกสดเนื้อแน่นกรอบ เวลาผ่าครึ่งจะเห็นเป็นสีดำและมีจุดขาวเหมือนด้านตัดของหินแกรนิต กรอบนอกนุ่มใน กินกับซอสมะม่วง เปรี้ยวนิดๆ หวานหน่อยๆ พร้อมหอมกลิ่นขิงอ่อนๆ
ในส่วนของซุป มีให้เลือก 2 อย่าง แกงส้มกุ้งแม่น้ำ กับ แกงเลียงกุ้ง
แกงส้มกุ้งแม่น้ำ กุ้งแม่น้ำตัวโตๆ ที่เชฟการันตี ว่าสดที่สุดใน กทม. เครื่องแกงตำเองใหม่สดทุกวัน
แกงเลียงกุ้ง หอมกะปิ กินกับกุ้งตัวโต กับผักสดเครื่องแน่น บวบ เห็ดฟาง ข้าวโพดอ่อน
มาที่อาหารจานหลัก ที่เสริ์ฟมาพร้อมข้าวพันธุ์พื้นเมืองปลอดสารจากจังหวัดบุรีรัมย์ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิแดง และข้าวขาวหอมมะลิ
เริ่มกันที่ ผักกาดขาวตุ๋นเห็ดหอม ผักกาดตุ๋นมานิ่มๆ กับเห็ดหอม น้ำข้นๆ สัมผัสนุ่มละมุนลิ้น
ผัดพริกขิงปลาดุกฟู สชาติเผ็ดกำลังพอดี เนื้อปลาดุกทอดจนฟูกรอบ แล้วนำไปผัดกับเครื่องแกงพริกขิง ใส่ถั่วฝักยาวหั่นแฉลบ เม็ดพริกไทยอ่อน เพิ่มความเผ็ดร้อน และไข่แดงเต็มไชยา โรยหน้ามาด้วยสมุนไพรทอดกรอบ มะกรูด พริกแห้ง
แกงปูใบชะพลู
กรรเชียงปู ชิ้นโตๆ นุ่มเต็มคำ มากับแกงกะทิเข้นข้น หอมกลิ่นใบชะพลู กินกับข้าวสวยร้อนๆ เข้ากันอย่างดี
มัสมั่นเนื้อน่องแกะ ตุ๋นมานุ่มๆ ซึ่งเชฟได้ทอดรีดน้ำมันออกก่อนแล้วจึงนำไปเคี่ยวกับหางกะทิ และนำไปเคี่ยวซ้ำเคล้าเครื่องแกงมัสมั่น เพิ่มความหนึบด้วยมันฝรั่ง แต่ที่พิเศษ คือเชฟใส่มันม่วงมาด้วย ได้รสหวานๆ ลงตัวสุดๆ
น้ำพริกไข่ปู ไข่ปูหนักๆ ตำกับมะเขือพวง ปรุงได้รสชาติเปรี้ยวนำ หวานติดปลาย กินเคียงผักสด ผักต้ม ไข่ต้ม ปลาทูทอด
หมึกทอดกระเทียม ชุบแป้งทอดเหนียวหนึบกำลังดี เคี้ยวเพลิน หอมซอสกระเทียมที่ราดมา
ปิดท้ายแบบประทับใจ ด้วยของหวาน ขนมไทยสไตล์ฟิวชั่น จัดเสิร์ฟมาอย่างสวยงาม เริ่มที่ สังขยาน้ำตาลไหม้หวานเย็นส้ม สังขยาหวานเนื้อเนียน หอมกลิ่นน้ำตาลไหม้ ตัดเลี่ยนด้วยหวานเย็นส้ม สตรอว์เบอร์รี่สด กีวี เข้ากันอย่างลงตัว
หยกมณีสตรอว์เบอร์รี่ หอมกลิ่นควันเทียน สตรอว์เบอร์รี่ห่อหุ้มด้วยถั่วเหลือง จากนั้นห่ออีกชั้นด้วย สาคูใบเตย กลิ่นหอม คลุกมะพร้าวทึนทึก กัดคำโตพร้อมกันได้รสชาติเปรี้ยวหวานลงตัว
ข้าวฟ่างลำไยเปียก ข้าวฟ่างหวานนิดๆ เค็มกะทิหน่อยๆ มีมะพร้าวอ่อน ท็อปด้วย วุ้นเจลลี่ลำไย
นอกจากอาหารรสชาติถึงรสถึงเครื่อง ทางร้านยังเครื่องดื่มให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะน้ำผลไม้ สมูทตี้ ชากาแฟ ม็อกเทล ค็อกเทล ฯลฯ แต่ที่เรคคอมเมนต์ คือ เครื่องดื่มสมูทตี้เพื่อสุขภาพ
ชีวิตชีวา เครื่องดื่มดับกระหาย ที่ทำให้กระปรี้กะเปร่ามีชีวิตชีวาสมชื่อ ด้วยชาติเปรี้ยวนำ หวานติดปลาย สูตรเชฟวิชิต ที่นำผักผลไม้มาปั่นรวมกัน
ข้าวสมูทตี้ ข้าวสีแดงปั่นกับธัญพืช หวานหอมจากข้าว ไม่ใส่น้ำตาล เมนูปั่นเพื่อสุขภาพ ที่อยากจะให้ลองสั่งดื่ม
ร้าน Khao สาขาเพลินจิต เปิดให้บริการทุกวัน วันละ 2 รอบ คือ รอบกลางวันเวลา 11.00-14.00 น. และรอบเย็นเวลา 18.00-22.00 น. ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.facebook.com/khaogroup
