วันที่ 1 เมษายน ของทุกปี นอกจากจะถือว่าเป็นการเริ่มต้นเดือนใหม่แล้ว ในบ้านเรานั้นยังตรงกับวันสำคัญหลายวันเลย ตรงกับวันออมสิน ,วันข้าราชการพลเรือน และวันเลิกทาส แต่สำหรับฝรั่งวันที่ 1 เมษายน ของทุกปี เป็นวัน April Fool’s Day (เอพริลฟูล) หรือเรียกอีกอย่างว่า ‘วันเมษาหน้าโง่’ ซึ่งในวันนี้ทุกคนจะออกมาเฉลิมฉลองกันอย่างสนุกสนาน เล่นมุกตลก แต่งเรื่องโกหกหลอกลวง แกล้งให้คนอื่นเชื่อ แล้วจะมาเฉลยในภายหลัง โดยในวันนี้เขาห้ามโกรธกันด้วยนะ ฟังดูแล้วเหมือนจะใจร้ายยังไงไม่รู้เนอะ อิอิ ถ้าโดนแกล้งแรงๆ ขึ้นมาจะทำใจไม่โกรธกันได้มั้ย?? ไปอ่านประวัติความเป็นมา และดูวัน April Fool’s Day ของแต่ละประเทศกันค่ะว่าเขานิยมแกล้งกันยังไงบ้าง?
1 เมษายน เมษาหน้าโง่
ประวัติความเป็นมาวัน April Fool’s Day
ในอดีตสมัยของ King Charles IX กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 9 แห่งฝรั่งเศส ได้มีการเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่ จากวันที่ 1 เมษายน มาเป็นวันที่ 1 มกราคม ด้วยความเคยชิน และการติดต่อสื่อสารสมัยนั้นยังเป็นไปได้อย่างยากลำบาก ทำให้ประชาชนหลายๆ คนยังไม่รู้กันทัังหมดว่าได้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่มาเป็นวันที่ 1 มกราคมแล้ว จึงยังมีจัดปาร์ตี้ฉลอง ส่ง ส.ค.ส. ปีใหม่ในวันที่ 1 เมษายน ให้กันอยู่ ทำให้คนพวกนี้โดยล้อเลียน และถูกเรียกว่าพวก ‘เมษาหน้าโง่’ นั่นเอง
จากนั้นมาในศตวรรษที่ 18 ได้ถูกกำหนดขึ้นอย่างเป็นทางการให้วันที่ 1 เมษายน ของทุกปีเป็นวัน April Fool’s Day หรือ วันเมษาหน้าโง่ โดยในวันนี้ทุกคนสามารถแต่งเรื่องหลอกลวง โกหก คนอื่นๆ เพื่อความสนุกสนานได้ และเฉลยในภายหลังว่าเขากำลังโดนหลอกอยู่ โดยที่หากคนที่โดนหลอกรู้ความจริงแล้วก็ห้ามโกรธกัน! เทศกาลนี้ก็เริ่มเป็นที่นิยมไปในหลายๆประเทศทั่วโลก ทั้งในประเทศสหรัฐ อเมริกา , อังกฤษ , สก๊อตแลนด์ ญี่ปุ่น ฯลฯ ซึ่งในแต่ละประเทศก็มีการแกล้งที่แตกต่างกันออกไป และอาจจะไม่ตรงกับวันที่ 1 เมษายนเหมือนกันทุกประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของประวัติความเป็นมาวัน April Fool’s Day นั้น ยังมีเรื่องเล่าหลายทฤษฎีเลย อาทิ อ้างว่า เริ่มจากพวกโรมันโบราณ มีเทศกาลที่เรียกว่า “Cerealia” จัดในช่วงต้นเดือนเมษายน เรื่องเล่านี้มีว่า เทพเจ้าชื่อ Ceres ทรงได้ยินเสียงสะท้อนของพระธิดา Prosperpina ตะโกนมาว่า เธอถูกจับตัวไปอยู่ใต้ผืนดินโดยเทพพลูโต Ceres จึงตามเสียงลูกสาวไป และได้พบความจริงที่ว่า การตามเสียงสะท้อนเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดเลย เหมือนว่าพระองค์ทรงถูกหลอก
บ้างก็ว่า เกิดจากช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่เล่าสืบต่อกันมาว่า ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หนุ่มสาวจะออกตามหาความรัก และเป็นช่วงที่พืชเจริญเติบโต ในขณะที่สัตว์ต่าง ๆ ก็หาคู่ด้วย กลุ่มนักบวชจึงพยายามหลอกล่อวิญญาณของความชั่วร้ายอย่างสุดความสามารถ เพื่อไม่ให้มาขัดขวางความรักของทั้งหนุ่มสาว พืช และสัตว์ ดังนั้น จึงเป็นเดือนที่นักบวชจะต้องสวดเพื่อหลอกเหล่าวิญญาณร้าย
ลองมาดูกิจกรรมยอดนิยม April Fool’s Day หรือ วันโกหกของแต่ละประเทศ ว่าเขาทำอะไรกันบ้าง?
วันโกหกของประเทศอังกฤษ
-เล่นกันเฉพาะช่วงเช้า คนที่ถูกแกล้งเรียกว่า ‘Gobs’ หรือ ‘Gobby’ และเหยื่อของการเล่นจะเรียกว่า ‘Noodle’
วันโกหกของประเทศโปรตุเกส
-แกล้งกันโดยการโยน หรือปาแป้งใส่คนอื่นๆ
วันโกหกของกรุงโรม ประเทศอิตาลี
-เป็นวันหยุดที่ทุกคนจะรู้จัก และเรียกวันนี้ว่า “Hilaria” เป็นการฉลองแด่พระเจ้า Attis วันนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “Roman Laughing Day.”
วันโกหกของประเทศอินเดีย
-ในทุกวันสุดท้ายของเดือนมีนาคม ชาวอินเดียจะมีการเล่นแกล้งกัน และนิยมสาดสี ใส่กันอีกด้วย
รวมสุดยอดเหตุการณ์ 10 อันดับ วันเมษาหน้าโง่
ของโลก โดย เว็บไซต์ GeoBeats
ได้รวบรวม 10 อันดับสุดยอดการอำในวันเมษาฯ หน้าโง่ หรือวัน April Fool′s Day
อันดับ 10 ในเดือนเมษายน ปี 1957 เว็บไซต์BBC ข่าวเรื่องเกษตรกรชาวสวิสต์กำลังเก็บเกี่ยวสปาเก็ตตี้ ซึ่งอยู่บนต้นไม้คล้ายๆถั่วฝักยาว ส่งผลให้ผู้ชมทางบ้านโทรศัพท์เข้ามาถามวิธีการปลูกต้นสปาเก็ตตี้
อันดับที่ 9 ข่าวของเดือนเมษายน ปี 1981 เดลิเมล์ รายงานข่าวการวิ่งแข่งขันมาราธอน ที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งแปลความหมายผิดว่า “ในการแข่งขันการวิ่งมาราธอนที่กรุงลอนดอน ใช้เวลาทั้งสิ้น 26 วัน ในการวิ่งเป็นระยะทาง 26 ไมล์ส เขาเลยไม่ต้องรีบวิ่งแตาอย่างใด
อันดับที่ 8 เกิดขึ้นในเดือนเมษายน 1996 ในโฆษณาของ Taco Bell ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง ได้บอกว่า บริษัทของตนได้ซื้อ “ระฆังแห่งเสรีภาพ”(Liberty Bell) อันเป็นสัญลักษณ์แห่งเสรีภาพของชาวอเมริกันที่ตั้งอยู่ที่ฟิลาเดลเฟีย มลรัฐเพนซิลวาเนีย แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นระฆัง “Taco Liberty Bell” และเมื่อโฆษกของทำเนียบรัฐบาลสหรัฐ ถูกสอบถามเรื่องนี้ เขากลับระบุว่า สถานที่สำคัญของอเมริกันอย่าง The Lincoln Memoria) ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี ก็ถูกขายให้กับเจ้าของบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ เช่นกัน
อันดับ 7 ปี 1998 “เบอร์เกอร์ คิง” ปล่อยข่าวไปว่า จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่และลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ USA Today ว่าจะออกวอปเปอร์สำหรับคนถนัดซ้าย โดยในโฆษณาได้บรรยายว่าส่วนประกอบของวอปเปอร์มีไว้เพื่อคนถนัดซ้ายโดยเฉพาะ
อันดับ 6 ในปี 1994 ในนิตยสาร “PC Computing” แจ้งให้ผู้อ่านให้ทราบว่า มีร่างกฎหมายที่จะแบนการเล่นอินเตอร์เน็ตของคนที่กำลังเมาเหล้า ข่าวนี้ส่งผลให้พลเมืองดีเป็นจำนวนมากโทรศัพท์เข้ามาโวย
อันดับ 5 ปี 2008 BBC รายงานว่า ค้นพบนกเพนกวินบิน พวกมันบินเป็นระยะทางไกลหลายพันไมล์สจากดินแดนขั้วโลกมาสัมผัสกับแสงแดดในดินแดนอเมริกาใต้
อันดับ 4 ในเดือนเมษายน ปี 1965 หนังสือพิมพ์ “โคเปนเฮเกน” ที่ประกาศว่า มีกฎหมายหนึ่งที่บังคับให้สุนัขทุกตัวต้องทาสีขาวเพื่อที่จะสามารถมองเห็นในยามกลางคืนได้ง่ายๆ
อันดับ 3 ใน ปี 2000 หนังสือพิมพ์ “The Independent” ได้รายงานว่า นักวิจัยที่ฟลอริด้า ได้คิดค้นยาขึ้นมาชนิดหนึ่ง เป็นนยากระตุ้นทางเพศของสัตว์เลี้ยง มีลักษณะคล้ายไวอากร้าของคน
อันดับ 2 ในปี 1993 คลื่นวิทยุของเยอรมันคลื่นหนึ่ง ได้รายงานว่า มีกฎหมายใหม่กำหนดให้นักวิ่งห้ามวิ่งเกิน 6 ไมล์สที่สวนสาธารณะในเมือง เพราะจะไปรบกวนกระรอกที่บริเวณนั้นในฤดูกาลผสมพันธุ์
อันดับ 1 จดหมายของของ “A New Mexicans for Science and Reasons” ที่ตีพิมพ์ในเดือนเมษายน 1998 ได้รายงานว่า ที่มลรัฐอะลาบาม่าประกาศเปลี่ยนค่า “ไพ”(Pi) จากที่รับรู้กันว่า มีค่าเท่าประมาณ 3.14159 เป็นค่าเท่ากับ 3 เท่านั้น
ถึงจะเป็นเทศกาลที่แกล้งกันเพื่อความสนุกสนาน หากน้องๆ จะแกล้งเพื่อนๆ ก็อย่าให้รุนแรงจนเกินพอดีนะคะ >^^< จากที่จะสนุกสนาน เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องดราม่า เพื่อโกรธไม่รู้ด้วยน้าา
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
>>10 อันดับเรื่องโกหกสุดฮิต ในวันเมษาหนาโง่ (April Fool’s Day)
ที่มา:วิกิพีเดีย,mthai