เมื่อปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 โรงงานผลิตบุหรี่เริ่มที่จะมีการใส่การ์ดแข็ง หรือไพ่ในซองบุหรี่เพื่อทำให้ซองบุหรี่มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดไอเดียเริ่มนำผลงานศิลปะ รูปวาดคนดัง หรือรูปหญิงงามต่างๆ ใส่ลงไปบนการ์ดแข็ง แถมยังมีการทำเป็นคอลเลคชั่นด้วย จากนั้นการทำการ์ดก็มีมาเรื่อยๆ จนถึงช่วงปีคริสตศักราช 1940 และรู้ไหมว่าการ์ดพวกนี้มีมูลค่าสูงมากเลยทีเดียว อย่างเช่น การ์ดรูปของ Honus Wagner นักเบสบอล ที่มีมูลค่าสูงที่สุดถึง 2.8 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
วันนี้ Campus-Star จะพามาดูคอลเลคชั่น “How-To” บนซองบุหรี่ของบริษัท Gallaher Ltd of Belfast & London and Ogden’s Branch of the Imperial Tobacco Co ซึ่งเป็นเทคนิคในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ
10 วิธีที่ คนสมัยก่อนใช้แก้ปัญหา ในยุคที่เทคโนโลยี ยังไม่ทันสมัยมากนัก
1. วิธีการข้ามลำธาร
วิธีการข้ามลำธารสำหรับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็น เริ่มจากหาเชือกเส้นใหญ่ ที่มีความแข็งแรง เหนียวทนทาน นำมามัดปลายเชือกด้านหนึ่งให้แน่นกับต้นไม้ แล้วให้คนที่ว่ายน้ำเก่งๆ ว่ายข้ามลำธาร โดยนำปลายเชือกอีกด้านไปมัดกับต้นไม้ของอีกฝั่ง จากนั้นทำเก้าอี้โดยใช้เชือกทำเป็นห่วงขนาดใหญ่พอที่จะนั่งได้ดังภาพ จากนั้นผูกเก้าอี้เชือกติดกับรอก เพียงเท่านี้คนที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็สามารถข้ามลำธารได้แล้ว
2. วิธีช่วยเหลือคนที่โดนไฟดูด
วิธีช่วยคนที่โดนไฟดูดของคนสมัยก่อน มีหลักอยู่ว่าห้ามจับตัวคนที่โดนไฟดูดมือเปล่า แต่คุณควรที่จะใส่ถุงมือยาง หรือมือของคุณควรห่อหุ้มด้วยเสื้อกันฝน หรือผ้าแห้งหนาๆ หลายๆ ชั้น ควรยืนบนพื้นแก้ว หรือไม้แห้งๆ ที่เป็นวัสดุไม่นำไฟฟ้า แล้วลองหาวิธีการตัดกระแสไฟบริเวณนั้น แล้วส่งคนที่โดนไฟดูดไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
3. วิธีการดับไฟ
ผสมเกลือ 1 ปอนด์ (ประมาณ 450 กรัม) กับแอมโมเนียมคลอไรด์ครึ่งปอนด์ (ประมาณ 225 กรัม) กับน้ำประมาณ 2 ลิตร ลงในขวดแก้ว ขวดละ 1 ลิตร เมื่อมีเพลิงไหม้ก็สามารถปาไปบริเวณนั้นได้เลย ซึ่งนี่ก็คือวิธีการดับเพลิงของคน 100 กว่าปีก่อน แต่สมัยนี้มีวิธีการดับเพลิงที่ง่ายกว่าและปลอดภัยกว่าเยอะเลย เช่นใช้ถังดับเพลิง
4. วิธีการเก็บถนอมอาหาร
วิธีการเก็บถนอมไข่เป็ด ไข่ไก่ของคนสมัยก่อนไม่ยากเลย สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ด้วย แต่ต้องใช้ไข่ที่สดใหม่นะ โดยเตรียมกล่อง หรือกระป๋องที่บรรจุเกลือ จากนั้นนำไข่ฝังลงไปในเกลือ แล้วเก็บไว้ในที่เย็น และแห้ง
5. วิธีการทำเครื่องกรองน้ำ
เครื่องกรองน้ำสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยสองมือของเรา ใช้อุปกรณ์เพียงไม่กี่อย่าง คือ กระป๋องสะอาด, ก้อนหินก้อนใหญ่และก้อนเล็กที่ล้างสะอาดแล้ว, ทรายหยาบ และ ทรายละเอียด เมื่อเตรียมอุปกรณ์ครบแล้ว เจาะรูที่ก้นกระป๋อง ใส่ก้อนหินก้อนใหญ่ ตามด้วยก้อนเล็กลงในกระป๋อง จากนั้นใส่ทรายหยาบ และใส่ทรายละเอียดเป็นชั้นสุดท้าย
6. วิธีการตัดต้นไม้
เลือกฝั่งที่จะให้ต้นไม้ล้มแล้วผูกเชือกไว้สำหรับดึงโค่นต้นไม้ เริ่มตัดจากฝั่งที่จะให้ต้นไม้ล้มโดยตัดเป็นแนวเฉียงลงและลึกเข้าไปข้างในจนถึงกลางลำต้นดังภาพ จากนั้นย้ายไปตัดอีกฝั่งบริเวณที่สูงกว่ารอยตัดแรกเล็กน้อยโดยใช้วิธีการตัดวิธีเดิม จากนั้นโค่นต้นไม้ลงโดยการดึงเชือกที่ผูกไว้ แต่ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าตัดต้นไม้เลยนะจ๊ะ
7. วิธีการทำให้ต้นไม้ไม่เหี่ยวเมื่อไม่อยู่บ้านหลายวัน
วางกะละมังหรือถังน้ำให้สูงกว่าต้นไม้เล็กน้อยดังภาพ จากนั้นเติมน้ำให้เต็ม ยกกระถางต้นไม้มาวางไว้รอบๆ ถังน้ำ จากนั้นนำไหมพรมหย่อนลงไปในถังน้ำจนถึงก้นถังให้ไหมพรมเปียกน้ำทั้งเส้น ดึงปลายเส้นไหมพรมด้านหนึ่งนำมาวางบนดินในกระถางต้นไม้ ไหมพรมหนึ่งเส้นต่อหนึ่งกระถาง แค่นี้ก็สามารถไปเที่ยวหลายๆ วันโดยที่ไม่ต้องห่วงว่าต้นไม้จะเหี่ยวแล้ว
8. วิธีการจุดไม้ขีดไฟในบริเวณที่มีลมแรง
เมื่อต้องการจุดไม้ขีดไฟในบริเวณที่มีลมแรง วิธีง่ายๆ ก็คือ เหลาผิวของไม้ขีดไฟให้เหมือนดังภาพด้านบน จะช่วยให้ไฟที่จุดแรงขึ้น และไฟติดนานขึ้นกว่าเดิม
9. วิธีการนำเสี้ยนออก
เติมน้ำร้อนให้เกือบเต็มขวดปากกว้าง จากนั้นนำปากขวดไปกดปริเวณที่โดนเสี้ยนตำ ผิวปริเวณนั้นจะโดนปากขวดดูดและความร้อนก็จะช่วยให้เสี้ยนที่ตำหลุดออกกมาเอง ถ้าใครที่โดนเสี้ยนตำบ่อยๆ ลองนำไปใช้ดูนะจ๊ะ อาจจะได้ผลก็ได้
10. วิธีการจัดการหมาที่จะเข้ามากัด
ถ้าเดินๆ อยู่แล้วหมาจะเข้ามากัด ให้ใช้สิ่งของรอบๆ ตัวที่มีป้องกันตัวคุณจากคมเขี้ยวของหมา หรือล่อให้หมาไปทางอื่น เช่นถ้าคุณสวมหมวกก็ให้โยนหมวกล่อหมาไปทางอื่น อย่าไปเสียดาย แล้วรีบเดินหนีให้เร็วที่สุด อย่าวิ่ง
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : mentalfloss.com
หมายเหตุ : แต่อย่าลืมนะ ว่าการ์ดพวกนี้มีอายุมากว่า 100 ปีมาแล้ว ฉะนั้นความรู้เรื่องความปลอดภัย และเทคโนโลยีต่างๆ ยังไม่ทันสมัยมากนัก ซึ่งบางวิธีอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ ไม่ควรทำตาม แต่บางวิธีก็สามารถประยุกต์ใช้ได้ ฉะนั้นโปรดใช้วิจารณาญาณในการอ่าน หรืออ่านเพื่อเรียนรู้ว่า คนสมัยก่อนเขาใช้วิธีไหน ในการแก้ปัญหาในเมื่อเทคโนโลยียังไม่ทันสมัยเหมือนตอนนี้ เหมือนกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ก็แล้วกันนะจ๊ะ