36 ปี ในวงการบันเทิง หมิว-ลลิตา กับฝีมือการแสดงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง

กระแสแรงไม่ตกจริงๆ สำหรับละครแนวสะท้อนสังคมอย่าง “ล่า” เวอร์ชั่น 2017 ที่ล่าสุดได้เดินทางมาถึงฉากสำคัญแล้ว โดยหลังจากที่ได้มีการตัดสินคดีให้กลุ่มทรชนทั้ง 7 คน ได้รับการตัดสินโทษติดคุกไม่เพียงกี่ปีเท่านั้น แถมยังได้รับโทษไม่ครบทุกคนอีกด้วย จึงทำให้ “มธุสร” ซึ่งรับบทโดย หมิว-ลลิตา เกิดความแค้นใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่มธุสรได้ลาออกจากงานเสมียนไปเรียนเสริมสวย ก็ทำให้เธอได้รู้จักกับ “ยูกิ ฟุคุชุคะ” รับบทโดย ต๊งเหน่ง-รัดเกล้า ชาวญี่ปุ่นที่ทำให้เธอได้รู้จักกับการฆ่า และทำให้ได้รู้จักคำว่า “ความพยาบาทเป็นของหวาน” และนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้แค้นล่าทรชนทั้ง 7 คนที่ทำให้เธอและลูกเป็นแบบนี้

สวย เป๊ะ หมิว-ลลิตา นางเอกตลอดกาล

ซึ่งเราจะต้องมารอลุ้นกันว่ามธุสรจะสามารถทำการแก้แค้นในครั้งนี้ได้สำเร็จหรือไม่ แต่ในบทความนี้ แคมปัส-สตาร์ จะพาทุกคนมาย้อนวัยใสของนางเอกสาวตลอดกาล “หมิว-ลลิตา ปัญโญภาศ” ที่ถึงแม้ว่าเธอจะอยู่ในวงการบันเทิงนี้มาอย่างยาวนานถึง 36 ปีแล้ว แต่การแสดงของเธอก็ไม่เคยตกลงไปเลย แถมยังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย ทั้งความเก่ง ความสวย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนางเอกสาวของวงการบันเทิงที่มีผลงานให้เราได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่องจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นงานละคร ถ่ายแบบ เดินแบบ และงานโฆษณา

ประวัติส่วนตัว

หมิว-ลลิตา ปัญโญภาส หรือ ลลิตา ศศิประภา เกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2514 เป็นบุตรสาวของ จารุวรรณ ปัญโญภาส และโกวิท โชติรส

ส่วนทางด้านการศึกษาหมิว-ลลิตาเข้าศึกษาชั้นอนุบาลที่ โรงเรียนอนุบาลยุคลธร ระดับประถม-มัธยมต้น จากโรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา และระดับมัธยมปลาย จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สายศิลป์ภาษา-ฝรั่งเศส และจบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และระดับอนุปริญญา (Diploma) ในสาขาการออกแบบตกแต่งภายใน (Interior Design) ที่ Inchbald School of Design ประเทศอังกฤษ เป็นเวลา 1 ปีเต็ม และระดับปริญญาโท ในสาขาการออกแบบตกแต่งภายในอีกเช่นกัน ได้รับปริญญาโท (M.A.) ที่ Master Middlesex University ประเทศอังกฤษ

เส้นทางในวงการบันเทิง

ผลงานด้านละคร

สำหรับหมิว-ลลิตามีผลงานละครเรื่องแรกในชีวิตคือ ละครเรื่องสะใภ้สลัม (2524) ซึ่งในเรื่องนี้บทที่เธอได้รับเป็นบทบาทของนางเอกในตอนเด็ก และเธอยังได้มีผลงานการแสดงในบทบาทของนักแสดงเด็กอีกต่อมาเรื่อยๆ อีกหลายเรื่องด้วยกัน เช่น สนิมสังคม (2525), บาปปราถนา (2527), หกพี่น้อง (2528) และต้นส้มแสนรัก (2529) เป็นต้น

จนมาถึงละครที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธอเป็นอย่างมากกับการได้รับบทเป็นนางเอกเต็มตัวเรื่องแรกคือ ปริศนา (2530) โดยหลังจากนั้นเธอก็มีผลงานละครออกมาให้แฟนๆ ได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่องจนถึงในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น วนาลี (2533), วนิดา (2534), ในฝัน (2535), ยามเมื่อลมพัดหวน (2536), ตุ๊กตาเริงระบำ (2537), ปราสาทมืด (2537), พริกขี้หนูกับหมูแฮม (2538), ทรายสีเพลิง (2539), เจ้าสาวกลัวฝน (2547), กุหลาบสีดำ (2548), สู่ฝันนิรันดร (2551), แม่ยายที่รัก (2555), แค้นเสน่หา (2556) และล่า (2017) ฯลฯ ซึ่งผลงานของเธอล้วนได้รับคำชม และการตอบรับเป็นที่ดีจากแฟนๆ ละครเป็นจำนวนมาก

ผลงานด้านภาพยนตร์

สำหรับภาพยนตร์เรื่องแรกของหมิว-ลลิตา คือ แรงเทียน (2531) ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำให้เธอได้รับรางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี-นักแสดงดาวรุ่งหญิง อีกด้วย ซึ่งหลังจากนั้นเธอก็มีผลงานทางด้านภาพยนตร์ออกมาให้เราได้ติดตามกันหลายเรื่อง เช่น เพราะว่า..ฉันรักเธอ (2531), ด้วยรัก คิดถึง (2531), พลอย (2550), ขอบคุณที่รักกัน (2554) และประโยคสัญญารัก (2556) เป็นต้น

ผลงานด้านอื่นๆ

โดยนอกจากนี้เธอยังมีผลงานทางด้านการถ่ายแบบให้กับนิตยสารชั้นนำของเมืองไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ทำให้เธอได้รับโหสตจากนิตยสารสุดสัปดาห์ ว่าเป็น 1 ใน 5 นางเอก/นางแบบที่ขึ้นปกนิตยสารบ่อยที่สุดอีกด้วย ส่วนนิตยสารเล่มแรกของเธอก็คือ นิตยสารขวัญเรือน (2528)

อีกหนึ่งผลงานที่เป็นความภาคภูมิใจของเธอก็คือการทำหนังสือ โดยที่หนังสือเล่มแรกที่เธอทำออกมาก็คือ “ฤดูไหน” เมื่อปี 2542 ซึ่งเป็นหนังสือบันทึกการเดินทาง ประสบการณ์ ความคิด ผ่าน 4 ฤดูกาลในช่วงที่เธอได้เดินทางไปเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ และเล่มล่าสุดก็คือ “ล.ลิง ตกใต้ต้น” บันทึกอมยิ้ม รับประกันฟันไม่ผุ  ที่เป็นเรื่องราวของผลผลิตทางครอบครัวของเธอ กับ ก้อง นรบดี ศศิประภา (อดีตสามี) คือ แพลงตอน ศศิเดช ศศิประภา และ อีตั้น ศักดิเดช ศศิประภา

คุณแม่หมิว & น้อแพลงต้อล (ลูกชายคนโต)

คูณแม่หมิว & น้องอีตั้น (ลูกชายคนเล็ก)

น่ารักสุดดดดดด

Dichan Magazine 877 “Stunning Return Mew & Mam”

บทความที่เกี่ยวข้อง

รวมภาพ นางเอกตลอดกาล หมิว-ลลิตา

ภาพจาก IG : @mewlalita.fanpage

ข่าวที่เกี่ยวข้อง