8 บทเรียนชีวิต จากการเที่ยวกลางคืน

จำไว้อย่าง การเที่ยวกลางคืนไม่ใช่การฆ่าเวลาเอาลมหายใจไปสูดกลิ่นเหล้าเคล้าบุหรี่ให้เสียไปเปล่าปลี้ไร้ซึ่งประโยชน์ไปวัน ๆ ถ้าหากคุณเก็บเกี่ยวอะไรบางอย่างที่นอกเหนือจากตำราเรียนให้ได้…ก็คงจะดีไม่น้อย พลิกวิกฤติ…เอ๊ย โอกาสในการเที่ยวเตร่ยามค่ำคืนมาเป็นบทเรียนชีวิตสอนใจ ที่หาไม่ได้ตามสถาบันการศึกษาดีกว่า เราสรรหาบทเรียนที่ว่า ที่คุณสิงห์นักเที่ยวสามารถหาได้ในบรรยากาศยามออก ร่ำสุราและ ดึ๊ง ดึง ดึง ดึง…ดังต่อไปนี้

บทเรียนชีวิต เที่ยวกลางคืน

บทที่ 1 เงินซื้อความสุขไม่ได้

แน่นอนคุณสมบัติของ “เงิน” สามารถเปิดเหล้าให้คุณเมามายได้ตลอดทั้งคืน หากแต่มันไม่สามารถซื้อความสุขที่ยั่งยืนได้ เป็นบทเรียนที่นักเที่ยวกลางคืนรู้อยู่แก่ใจลึก ๆ ทุกคน ทว่าความสุขฉาบฉวยอันนี้คว้าได้ก็ควรคว้าไว้ก่อนตอนนี้ มีบทเรียน อย่างหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นจริง และคุณจะได้เรียนรู้ หากวันใดที่คุณไร้เงินตราหนาหนักเหมือนแต่ก่อน พร้อม ๆ กับมิตรภาพก็ห่างหายไปพร้อม ๆ กับเงินก้อนนั้นด้วย ยามนั้นคุณจะรู้ว่า “เงิน” ซื้อความสุขไม่ได้จริง ๆ

บทที่ 2 “ลุคส์” นั้นสำคัญไฉน

สำคัญแน่ ๆ สำหรับนักเที่ยวตัวจริง ภาพลักษณ์สำคัญพอ ๆ กับเงินนั่นล่ะ วิถีชีวิตของคน ชอบย่ำราตรีจะว่าไปก็ตื้นเขิน คนบางคนก็อาจจะตัด สินใจผู้คนที่พบเห็นจากภายนอกเป็นอย่างแรกและอย่างเดียว เนื่องจากเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ได้พบกัน แน่นอนสาวเปรี้ยวจี๊ด นุ่งวับแวมกับชายหนุ่มหล่อล่ำพกซิกซ์แพ็กมาเป็นมัด ย่อมดึงดูดสายตาจากผู้คนกว่าสาวแว่นเตอะ หนุ่มตาตี่ ไม่มีดั้งอยู่แล้ว นี่คือบทเรียนที่ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า หน้าตาดี บางทีก็สำคัญในบางช่วงเวลา มันเป็นโอกาส เป็นสะพานให้เราพบเจอผู้คน หากแต่ต่อจากนั้น เป็นหน้าที่ของสมองที่ต้องทำงานบ้างแล้ว

บทที่ 3 ความมั่นใจคือพระราชา

บทเรียนนี้สอนเลยว่า ความหงิม ความติ๋ม ความเชย ให้เก็บไว้ที่บ้านอย่าพกมาด้วย หากอยากแจ้งเกิดในที่เที่ยว ทำชิลล์ ชิลล์ ขำ ๆ หน้ามึน ปล่อยมุกหน้าตาย เป็นนโยบายเด็ดที่ควรนำมาใช้ รูปไม่หล่อ ไม่ขาวหมวย พ่อไม่รวย ไม่ได้จบนอก แต่ความมั่นใจนี่ล่ะที่จะจุดคุณให้แจ้งเกิดได้ อย่าจริงจังกับชีวิตเกินไปยามไปเที่ยว ต่อให้โลกจะอยู่ในภาวะหรือประสบภัย แล้ง ภูเขาไฟที่อินโดฯกำลังระเบิด ปัญหาทุกอย่างให้ลืมไว้ชั่วคราว ความกังวลจะดึงพลังความมั่นใจไปหมด

บทที่ 4 ยศถาบรรดาศักดิ์มีไว้เชิด

พูดง่าย ๆ หัวโขน หรือ หน้าที่ตำแหน่งการงานที่คุณสวมไว้นี่ล่ะ จะเห็นสัจธรรมและมีค่าที่แท้จริงก็ต่อเมื่อคุณหลงอยู่ในวังวนแห่งแสงสีอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แม้โลกแห่งความจริง หน้าที่การงานจะนำมาซึ่งความเหนื่อยหนักสากรรจ์เพียงไหนก็ตาม ทว่ามันจะทำหน้าที่ชักนำพาซึ่งโอกาสดี ๆ ในการรู้จักใครต่อ ใคร หนุ่มโสดสาวฮอตประดามีกำลังเฝ้ารอคุณอยู่ใน ผับบาร์ที่คุณเป็นขาประจำ โอ่เข้าไว้ ว่าทำอะไรให้โลก ใบนี้บ้าง มีที่นากี่ไร่ โรงสีกี่โรง แต่จำไว้อีกอย่าง ยาม ที่คุณไม่เหลืออะไร แม้กระทั่งหน้าที่การงาน สัจธรรม จะบังเกิดได้ทันใดเช่นกัน

บทที่ 5 ต้องรู้จักเอาใจ

นอกจากความมั่นใจที่คนที่หน้าไม่ให้แต่ ใจรักควรมีแล้ว ความช่างเอาอกเอาใจ ดูไนซ์และเฟรนด์ลี่สุด ๆ ก็เป็นหนึ่งในบทเรียนที่คุณควรจะเรียนรู้ว่าควรจะทำ ยิ่งเคยชินได้ยิ่งดี จะได้ดูไม่เสแสร้งแกล้งทำ ข้อนี้หมายเหตุโดยเฉพาะหนุ่ม ๆ ที่หน้าแย่ แลจนทั้งหลาย จะจีบหญิงในที่เที่ยว ถ้าไม่มีคุณสมบัติใด ๆ โดดเด่นเลยในชีวิต ให้สุภาพเข้าไว้ เป็นมิตร แล้วก็อย่าลืมทิปเด็กเสิร์ฟหนัก ๆ หน่อย จะได้ดูโดดเด่นเด้งดึ๋งขึ้นมาในสายตาสาว ๆ ขาว ๆ ทั้งหลาย

บทที่ 6 เราจะรู้ว่าควรจะจัดการอย่างไร กับจุดมุ่งหมายในชีวิต

สิ่งสำคัญในการเที่ยว ไม่ควรปล่อยจิตใจให้หลงเหลิงกับแสงสี เป็นเหมือนการทดสอบตัวเองให้เหนียวแน่นกับจุดยืนที่คุณมี ยามโดนแสงสีสาดส่องมาที่ตัว มีหลายคนเที่ยวกลางคืนเพื่อลืมเศร้า แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่านี่ไม่ใช่หนทางแก้ปัญหา ทว่า อย่างน้อยก็ทำให้คุณได้ ลืมชั่วครั้งคราว ฉะนั้นคุณควรจะรู้ว่า จะจัดการอย่างไรกับจุดมุ่งหมายในชีวิต ปัญหาก็ยังต้องแก้ไข จำไว้ ความผิดพลาด การพ่ายแพ้ และการถูกปฏิเสธเสียบ้าง มีผลดีต่อจิตวิญญาณของเรา การเสพความเศร้า ทำให้เราได้รู้สึกดีกับความสุขเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้น โดยไม่ต้องไปดิ้นรนหาความสุขยิ่งใหญ่ที่หาได้ยากเย็น บางทีก็ไม่มีอยู่จริงด้วยซ้ำ

บทที่ 7 ได้เป็นคนกว้างขวาง

เรื่องดีก็มี เรื่องยี้ ๆ ก็เยอะ อยู่ที่เราจะเลือกเก็บเกี่ยวและวางตัว การออกเที่ยวทำให้เราได้รู้จักผู้คน แม้จะฉาบฉวยก็ชื่อว่าได้รู้จักไม่ใช่เหรอ ดีกว่าอยู่ในกะลาล่ะน่า ออกจากกะลามาเป็นกบกลางคืนบ้างก็ได้ ทั้งยังได้เรียนรู้คนจากร้อยพ่อพันแม่ด้วย หลาย ๆ คนได้ไอเดียเด็ด ๆ จากการเที่ยวมาก็เยอะ ได้รู้จักคนจากหลากร้อยวงการมารวมตัวกันแลกเปลี่ยนเบอร์โทรฯ เอ๊ย ความคิดเห็นกัน เป็นเรื่องดี ๆ ที่ควรเรียนรู้ไว้

บทที่ 8 ทำให้เรารู้ว่า ไว้ใจใครได้บ้าง

หรือบางทีอาจทำให้เราได้เรียนรู้ว่า ไม่มีใครไว้ใจได้เลยก็เป็นได้ ภายใต้หน้ากากที่ทุกคนสวมเข้าหากัน ไม่มีใครรู้ตื้นลึกหนาบางซึ่งกันและกันได้ดี คุณจะรู้ว่าคุณไม่สามารถไว้ใจคนแปลกหน้าได้เท่า ๆ กับการที่คน ๆ นั้นก็รู้สึกว่าคุณก็เป็นคนแปลกหน้าสำหรับเขาเช่นกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง