ปรับฮวงจุ้ย เปลี่ยนมุมทำงานให้เป็นมุมโปรด ด้วยสวิตช์ไฟ

วิกฤตโควิด-19 ทำให้คนอยู่ติดบ้านมากขึ้น ใช้ชีวิตอยู่กับบ้านเป็นเวลานาน แม้จะมีการปลดแมส เปิดเมืองแล้วก็ตาม แนวโน้มการใช้ชีวิตอยู่กับบ้านยังคงอยู่ ไม่เพียงการเสพติดการ Work from Home ด้วยพฤติกรรมของคนเจนวาย เจนซีที่รักอิสระ ต้องการเป็นผู้ประกอบการเอง ทำให้เกิดสตาร์ทอัพมากมาย ทำงานเป็นฟรีแลนซ์รับงานโดยมีฐานที่มั่นอยู่ที่บ้าน

ปรับฮวงจุ้ย เปลี่ยนมุมทำงานให้เป็นมุมโปรด

บ้านจึงไม่ได้มีความหมายเพียงแค่สถานที่พักผ่อนนอนหลับ หรือเป็นเซฟตี้โซนเท่านั้น แต่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากขึ้น เป็นทั้งออฟฟิศ ห้องประชุมทางไกล เวทีแสดงวิสัยทัศน์ ฯลฯ รวมถึงสตูดิโอเพื่อการพรีเซ็นต์สินค้าออนไลน์

กระนั้นเมื่อ Work from Home นานเข้า อารมณ์เซื่องๆ ซึมๆ ตื้อๆ ย่อมมี บ่อยครั้งเหมือนเกิดอาการตีบตันทางความคิด การขยับปรับเปลี่ยนฮวงจุ้ยมุมทำงานช่วยได้ เพื่อเติมเอนเนอจี้ รับพลังจากสิ่งใหม่ๆ

“ฮวงจุ้ย” เป็นศาสตร์แห่งทำเลที่ตั้งของที่อยู่อาศัย ให้สอดคล้องกับสภาวะแวดล้อม โดยอ้างอิงการเคลื่อนไหวของอากาศคือ ลม (ฮวง) และการเคลื่อนไหวของน้ำ (จุ้ย) รวมทั้งแสงสว่าง สร้างสภาวะสมดุล เพื่อผู้ที่อยู่อาศัยเป็นสุข การปรับทิศเปลี่ยนตำแหน่งของมุมทำงาน ช่วยให้เกิดมุมมอง เห็นหนทางใหม่ๆ เมื่อจิตใจฮึกเหิมขึ้น พลังกลับคืนมาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต มีความสุขกับการทำงานมากขึ้น

การกำหนดตำแหน่งที่ตั้งที่เหมาะสมของมุมทำงาน

มีหลักการกว้างๆ อาทิ

1. ไม่ควรหันหน้าชนกำแพง จะทำให้ความคิดตีบตัน การจัดมุมทำงานใกล้หน้าต่างจะช่วยให้ใกล้ชิดธรรมชาติ เปิดมุมมองทางความคิด และยังได้พักสายตา

2. ไม่ควรหันหลังให้ประตูหรือช่องทางเข้าออก ถ้าเลี่ยงไม่ได้อาจใช้วิธีการเบี่ยงองศาของโต๊ะให้ทางเข้าออกอยู่ในระยะสายตา

3. ไม่ควรอยู่ริมทางเดินหรือใกล้จุดที่คนจะเดินพลุกพล่าน ถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้ใช้ฉากบังตาช่วยทำให้มีสมาธิในการทำงานมากขึ้น

4. ห้องทำงานที่ใช้ทั้งวัน ควรจะเลือกอยู่ทางทิศตะวันออก ตะวันออกเฉียงใต้และทิศใต้ เพราะแสงแดดจะไม่รบกวนการทำงานในยามบ่าย

5. สีสันช่วยสร้างบรรยากาศให้เอื้อต่อการทำงาน เช่น สีโทนขาวหรือดำที่ดูคลาสสิก ให้ความรู้สึกเป็นการเป็นงานเป็นมืออาชีพ

6. จัดระเบียบที่ทางสำหรับอุปกรณ์การทำงาน การใช้กล่องหรือชั้นวางของเป็นตัวช่วยที่ดี เมื่อทุกอย่างมีระเบียบเป็นที่เป็นทาง การจะหยิบจับหรือหาสิ่งของย่อมง่าย

7. สิ่งที่จะขาดไม่ได้คือ “ปลั๊กไฟ” ความที่มุมทำงานมักมีคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เสริมสารพัด ทั้งโน้ตบุ๊ค ปริ้นเตอร์ สแกนเนอร์ สมาร์ทโฟน ฯลฯ ปลั๊กไฟคือหัวใจของการทำงาน ซึ่งสิ่งสำคัญนอกเหนือจากความสะดวกในการใช้งานคือ “ความปลอดภัย”

ตำแหน่งของสวิตช์และปลั๊กไฟ ควรสูงจากพื้น 80 เซนติเมตร ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องการความสะดวกในการทำงาน เช่น คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค ฯลฯ และควรอยู่ในจุดที่ปลอดภัย แสงแดดส่องไม่ถึง และห่างจากบานหน้าต่างอย่างน้อย 10 เซนติเมตร ป้องกันความร้อน ความชื้น และปัญหาน้ำฝนซึมเข้ามาได้

ในบรรดาผลิตภัณฑ์กลุ่มสวิตช์และเต้ารับหรือปลั๊กไฟ ต้องยกนิ้วให้ AvatarOn A จากชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) นอกจากผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้รับมาตรฐาน IEC (International Electro Technical Commission) ยังมีฟังก์ชั่นที่ตอบในทุกโจทย์ของการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความโดดเด่นในเรื่องของการดีไซน์ที่เรียบหรู

ตัวสวิตช์มีให้เลือก 3 ขนาด 3 สี คือ ขาว-ดำ-เทา รองรับทุกการดีไซน์โดยสามารถใส่ความเป็นตัวตนด้วยการมิกซ์แอนด์แมช หน้าสวิตช์ที่เรียบเนียนเป็นหนึ่งเดียวกับผนัง เข้ากับทุกสไตล์การตกแต่ง ยังสามารถออกแบบการติดตั้งเป็นแนวตั้งหรือแนวขวางตามความถนัดมือ

ส่วนปลั๊กไฟนั้น เต้ารับ 3 ขา มีทั้งเต้ารับเดี่ยว เต้ารับคู่ และเต้ารับคู่ที่มาพร้อมกับสวิตช์ไฟปิด-เปิด ที่เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น แค่ปิด-เปิดสวิตช์ด้านข้าง วงจรไฟฟ้าก็จะตัดหรือจ่ายไฟทันที โดยไม่ต้องดึงปลั๊กออก ยืดอายุการใช้งานและยังช่วยประหยัดค่าไฟได้มากกว่า ยังมีเต้ารับ USB ทั้ง type A และ type C รองรับอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด สามารถปรับแต่งรวมสวิตช์และเต้ารับได้หลากหลายรูปแบบตามลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันในยุค 5G

ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนทุกเจนเนอร์เรชั่น AvatarOn A จึงใส่ใจในทุกรายละเอียด ให้ทั้งความสวยงาม ปลอดภัย และได้ประโยชน์สูงสุด

ที่มา www.se.com/th/en/product-range/8297075-avataron-a

บทความแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง