ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวชั่วโมงบินสูง เคยขึ้นเหนือล่องใต้มาแล้วหลายประเทศ หรือกำลังจะมีทริปต่างประเทศในพาสปอร์ตของตัวเองเป็นครั้งแรก การนั่งนิ่งๆ บนเครื่องบินนานๆ หลายชั่วโมงไม่ใช่เรื่องที่นักเดินทางทุกคนอยากเจอสักเท่าไหร่ ไหนจะต้องพบกับความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ขยับแขนขาไม่ถนัดถนี่เท่าที่ควร ยิ่งถ้าต้องบินในไฟลท์ที่ยาวนานกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไปกับคนแปลกหน้าที่เราไม่อยากแชร์ที่นั่งข้างๆ ด้วยแล้วล่ะก็ คุณอาจหมดสนุกตั้งแต่ยังไม่เหินขึ้นฟ้าเสียด้วยซ้ำ ( แคมปัสสตาร์ แนะนำบทความ 5 ทริคนั่งสบาย สไตล์สายการบินโลว์คอสต์ )
5 ทริคนั่งสบาย สไตล์สายการบินโลว์คอสต์
ฉะนั้นแล้ว ไหนๆ ก็กำลังจะได้บอกลางานประจำชั่วคราว เพื่อออกไปค้นหาเรื่องราวและประสบการณ์อันน่าประทับใจในต่างแดนทั้งที เราก็ควรจะทำการบ้านเตรียมความพร้อมกันหน่อย จะได้เดินทางอย่างราบรื่นตั้งแต่เทคออฟเหาะขึ้นฟ้าจนถึงตอนแลนดิ้งโดยสวัสดิภาพ และในโอกาสที่ช่วงวันหยุดปีใหม่กำลังจะมาถึง ซึ่งหลายคนก็คงมีแพลนไปเที่ยวต่างประเทศ สกู๊ต จึงมีเคล็บลับดีๆ มาฝากนักเดินทางก่อนเริ่มทริปในวันหยุดยาวที่จะถึงนี้
สแตนบายล่วงหน้าที่สนามบิน
สิ่งที่นักเดินทางทุกคนต้องทำก่อนการขึ้นเครื่องบินโดยไม่มีข้อยกเว้นก็คือ การเช็คอินเพื่อเตรียมตัวขึ้นเครื่องบิน จึงขอแนะนำให้นักเดินทางทุกคนเผื่อเวลาไปถึงสนามบินก่อนเวลาเดินทางอย่างน้อย 3 ชั่วโมงเพื่อทำการเช็คอินที่เคาท์เตอร์ของสายการบินในอาคารผู้โดยสารขาออก และถ้าหากไม่อยากกังวลเรื่องการต่อคิวเช็คอินที่ยาวเหยียดเหมือนแถวจ่ายเงินตามร้านช็อปปิ้งแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้เช็คอินล่วงหน้าแบบชิลล์ๆ ด้วยปลายนิ้ว แค่เข้าไปที่เว็บไซต์ของสายการบินและทำการเช็คอิน ส่วนหลังจากนั้นก็จัดการเรื่องการฝากสัมภาระหรือกระเป๋าเดินทางที่โหลดใต้ท้องเครื่องให้เรียบร้อย และรอขึ้นเครื่องบินตามประตูที่กำหนดก็เป็นอันว่าเสร็จสิ้นขั้นตอนการเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นเครื่องบินแล้ว
FlyScoot Tip: การเช็คอินออนไลน์กับสายการบินสกู๊ต สามารถทำได้ตั้งแต่ 48 – 1 ชั่วโมงก่อนเดินทางเลยนะ จิ้มไปที่นี่ได้เลย makeabooking.flyscoot.com/checkin
เตรียมช็อทลิสท์สำหรับไอเท็มจำเป็นต้องติดตัว
ด้วยความที่บางไฟลท์อาจใช้เวลานานหลายชั่วโมง การนั่งอยู่บนเครื่องบินโดยขาดของใช้หรืออุปกรณ์คู่ใจอาจทำให้นักเดินทางหลายคนรู้สึกไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ จึงขอแนะนำให้เตรียมของใช้ที่จำเป็นติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วย เช่น ผ้าปิดตา หมอนรองคอ และเสื้อผ้าที่ใส่สบาย เช่น เสื้อยืดหลวมๆ กางเกงวอร์ม รองเท้าผ้าใบที่ใส่สบายเพื่อจะได้หลับเต็มอิ่มตลอดการบิน หรือหากไม่รู้สึกง่วงก็ควรมีหนังสือเล่มใหม่เอี่ยม แบตเตอรี่สำรองและหูฟังสำหรับเอาไว้ดูหนังฟังเพลง รวมไปถึงยาประจำตัว ลูกอม ขนมขบเคี้ยวสำหรับป้องกันหูอื้อ ซึ่งหากมีลิสท์ของพวกนี้อยู่ใกล้ตัว การนั่งเครื่องบินนานๆ อาจไม่เลวร้ายอย่างที่คิดก็เป็นได้
FlyScoot Tip: สัมภาระที่จะนำขึ้นเครื่องได้นั้นจะต้องไม่เกิน 2 ใบและมีน้ำหนักรวมไม่เกิน 10 กิโลกรัม (สำหรับที่นั่งชั้นประหยัด) ส่วนแบตเตอรี่สำรองนั้นต้องมีความจุระหว่าง 20,000 – 32,000 mAh (นำติดตัวไปได้ 2 ก้อน) และของเหลวหรือสเปรย์ต้องมีความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร
ที่นั่งดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
ตำแหน่งที่นั่งบนเครื่องบินถือเป็นสิ่งที่นักเดินทางส่วนใหญ่ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ต่างคนต่างก็มีทริคในการเลือกที่นั่งเป็นของตัวเอง ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจส่วนตัวมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่มีรูปร่างสูงก็จะเลือกที่นั่งริมที่ติดทางเดินหรือแถวประตูฉุกเฉิน ส่วนผู้ที่บินไฟลท์ดึกหรืออยากงีบไปยาวๆ ก็ควรเลือกที่นั่งริมหน้าต่างเพื่อเลี่ยงการถูกปลุกโดยผู้ที่นั่งข้างๆ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะเลือกที่นั่งในตำแหน่งที่ดีแค่ไหนก็ตาม การลุกเดินไปเข้าห้องน้ำทุกๆ 1-2 ชั่วโมง จะช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายได้เปลี่ยนอิริยาบถและทำให้เรารู้สึกสบายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ
FlyScoot Tip: นอกจากการลุกไปเข้าห้องน้ำแล้วที่เราอาจต้องรบกวนคนที่นั่งติดทางเดินแล้ว เรายังสามารถยืดกล้ามเนื้อคลายเมื่อยในที่นั่งของเราได้เช่นกัน โดยการยกเข่าขึ้นทีละข้าง จากนั้นใช้แขนทั้งสองข้างกอดเอาไว้สัก 15 วินาที หรือค่อยๆ เอียงคอแล้วหมุนตามเข็มนาฬิกาช้าๆ สัก 10 ครั้ง ก็จะช่วยสลัดอาการเมื่อยตามออกไปจากตัวเราได้เยอะเลยทีเดียว
หมั่นเติมความสดชื่นตลอดไฟลท์
การนั่งเครื่องบินนานๆ ไม่เพียงแต่ทำให้เรารู้สึกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเท่านั้น แต่ยังทำให้ผิวหนังของเราสูญเสียความชุ่มชื้นเนื่องจากอากาศบนเครื่องบินนั้นจะแห้งกว่า มีระดับความชื้นที่น้อยกว่าบนพื้นดินนั่นเอง ดังนั้น การจิบน้ำเปล่าบ่อยๆ ระหว่างที่อยู่บนเครื่องบินจึงถือเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟและงดเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทั้งก่อนขึ้นเครื่องบินและระหว่างการเดินทาง เพราะว่าเครื่องดื่มเหล่านี้จะยิ่งทำให้ร่างกายของสูญเสียน้ำมากขึ้นไปอีก นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่เหมาะสมในปริมาณที่พอดีก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากดื่มน้ำอัดลมหรือรับประทานอาหารมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องอืดจนทำให้เรารู้สึกอึดอัดมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
FlyScoot Tip: นอกจากการดื่มน้ำเปล่าบ่อยๆ แล้ว เทคนิคลับๆ ที่เราอยากแนะนำก็คือ ถอดคอนแทคเลนส์ เตรียมโลชั่นบำรุงผิวขวดเล็กๆ หรือแผ่นมาสก์หน้าติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วย รับประกันได้เลยว่าเฟรชตลอดไฟลท์ !
เลือกสายการบินที่ตรงใจ
อยากปรับเบาะเอนแต่ก็เกรงใจคนข้างหลัง อยากดูหนังฟังเพลงแต่ก็ดันเปิดเนตมือถือไม่ได้ หรืออยากนั่งสบายแต่ก็ไม่อยากจ่ายแพงๆ ข้อจำกัดเหล่านี้จะหมดไป แค่ลองเปลี่ยนมาบินกับสกู๊ตก็จะได้สัมผัสกับที่นั่งที่มีระยะห่างเฉลี่ยระหว่างที่นั่งถึง 31 นิ้ว แถมกว้างถึง 18 นิ้ว (สำหรับที่นั่งชั้นประหยัด) ที่กว้างกว่าสายการบินโลว์คอสต์เจ้าอื่นๆ พนักพิงศรีษะก็ปรับได้เต็มที่ มีอินเทอร์เน็ตไวไฟพร้อมให้ใช้งาน แถมยังบินไปได้หลายประเทศอีกต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นที่เที่ยวยอดฮิตของคนไทยอย่างญี่ปุ่น แวะระหว่างทางเพื่อสัมผัสความอลังการของ Jewel Changi Airport ที่สิงคโปร์ หรือจะบินไกลไปแถบยุโรปอย่างกรีซและเยอรมนีก็ยังได้ จ่ายสะดวกนั่งสบายทุกไฟลท์แน่นอน
FlyScoot Tip: รู้อย่างนี้แล้วจะช้าอยู่ทำไมล่ะ เข้าไปกดจองแล้วเตรียมวางแผนเที่ยวกันเลยดีกว่า! ไปที่ www.flyscoot.com/th/fly-scoot/onboard/economy-class