เปิดประสบการณ์ใหม่กับทริป อดีตในปัจจุบัน อัศจรรย์แห่งตะวันออก ที่เราไม่รู้จัก

โครงการส่งเสริมการตลาดชุมชน ในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออกโดย สำนักงานพื้นที่พิเศษ 3 (อพท.3) ร่วมกับ สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) จัดทริป “อดีตในปัจจุบัน อัศจรรย์แห่งตะวันออกที่เราไม่รู้จัก” ระยอง–จันทบุรี–ตราด 3 วัน 2 คืน 27-29 เมษายน 2562

อดีตในปัจจุบัน อัศจรรย์แห่งตะวันออก ที่เราไม่รู้จัก

ในปี 2561 ที่ผ่านมา สำนักงานพื้นที่พิเศษ 3 (อพท.3) ร่วมกับสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) ดำเนินโครงการพัฒนากิจกรรมและเส้นทางท่องเที่ยว โดยชุมชนในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออก ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Go Ea(s)t & Go Green)

เพลิดเพลินบนลำน้ำประแสร์ ระหว่างเฝ้ามองหาตัวตะกองหรือมังกรน้ำแห่งอินโดจีน (Indochinese Water Dragon) กระแสบน จ.ระยองล่องเรือเพื่อเข้าไปชมที่ลานตะบูนนั่งพักเหนื่อยจิบชาร้อยรูแกล้มขนมจากและข้าวเกรียบงาดำ ชมความงดงามของระเบียงป่าในดงตะบูน บ้านท่าระแนะ จ.ตราดทรายสองสี หาดทรายบ้านไม้รูด จังหวัดตราดชุมชนไม้รูด จ.ตราดชมการเชิดสิงโตที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นอย่างน่าภูมิใจเพื่อสร้างสำนึกรักท้องถิ่นที่ชุมชนคลองใหญ่ จ.ตราดนั่งรถรางเที่ยวสวนผลไม้ ผ่านอุโมงค์สวนยางที่แสนโรแมนติก บ้านจำรุง ตำบลเนินฆ้อชายหาดที่ขาวละเอียด และเงียบสงบพร้อมธรรมชาติอันพิสุทธ์ของชุมชนประมงชายฝั่งที่บ้านไม้รูด ซึ่งซ่อนตัวอยู่บนชายฝั่งทะเลของอ.คลองใหญ่ จ.ตราดจิบชาร้อยรู เพลินกับวิวระเบียงป่า ดงตะบูนทำขนมนิ่มนวล ขนมพื้นบ้าน ของชาวระยองล่องเรือเพื่อเข้าไปชมที่ลานตะบูนลานตะบูนที่แผ่รากกระจาย ราวกับการขยายอาณานิคมเพื่อครอบครองผืนป่าเพลิดเพลินกับธรรมชาติ แสนพิสุทธ์ของป่าชายเลนระหว่างล่องคลองไม้รูดที่มีเสน่ห์แบบดั้งเดิมของป่าดิบชื้น ในบรรยากาศที่สงบขณะพระอาทิตย์ตกดินที่บ้านไม้รูด จ.ตราด2.ฟังบรรยายจากพี่ชำนาญ รองปรธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์กระแสบน

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างรากฐานความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนโดยใช้เครื่องมือ ที่เรียกว่าการท่องเที่ยวโดยชุมชน หรือ Community Based Tourism : CBT ในพื้นที่เขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออก (Active Beach) เพื่อให้ชุมชนสามารถมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ ทรัพยากรในพื้นที่ของตนเอง ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความยั่งยืน

นายธิติ จันทร์แต่งผล ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษ 3 (อพท.3) องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการตลาดชุมชน ในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออก กล่าวว่า

“โดยในปีนี้ อพท. 3 มีความคาดหวังที่จะเห็นชุมชนที่มีศักยภาพ ในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลตะวันออก ได้นำเสนออัตลักษณ์ วิถีชีวิต แหล่งท่องเที่ยวชุมชน รวมถึงการเสนอขายกิจกรรมการท่องเที่ยวของชุมชน ผ่านกลไกเครื่องมือการส่งเสริมด้านการตลาด และประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้น”

8 ชุมชน จาก ระยอง จันทบุรี และตราด

ชุมชนซึ่งให้ความร่วมมือและได้รับการสนับสนุน ภายใต้โครงการส่งเสริมการตลาดชุมชนของ อพท. ในปีนี้ ประกอบด้วย 8 ชุมชน ในจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ได้แก่ ชุมชนบ้านกระแสบน ชุมชนบ้านจำรุง ชุมชนบางกะจะ ชุมชนบ้านปัถวี ชุมชนบ้านไม้รูด ชุมชนบ้านท่าระแนะ ชุมชนคลองใหญ่ และชุมชนเกาะหมาก

ชุมชนแต่ละแห่งมีอัตลักษณ์และความโดดเด่น หรือประเด็นในพื้นที่ที่น่าสนใจต่างกัน และมีเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน เช่น

กิจกรรมด้านการท่องเที่ยวที่นำเสนอผ่าน CBT ในชุมชนเหล่านี้ สร้างสรรค์บนพื้นฐานด้านธรรมชาติ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชนในพื้นที่ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นการแสวงหาประสบการณ์ จากการท่องเที่ยวในพื้นที่ชนบทไทยดั้งเดิม หรือพื้นที่ธรรมชาติที่สงบและห่างไกล โดยใช้กิจกรรมที่มีอยู่ในพื้นที่อย่างเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย นักท่องเที่ยวมีหลากหลายกลุ่ม เช่น

นางสาว ศรีพิจิตต์ เติมชัยเจริญศักดิ์ อุปนายก สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) กล่าวว่า .. กิจกรรมในชุมชนหล่านี้มีความหลากหลายและแตกต่างกัน ทั้งกิจกรรมเชิงธรรมชาติ ผจญภัยและวิถีชีวิตวัฒนธรรม อาทิ

การล่องเรือเพื่อชมวิว – ดูตัวตะกองหรือลั้ง

การล่องเรือเพื่อชมวิวและดู ตัวตะกองหรือลั้ง (กิ้งก่ายักษ์) ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ร่มของกอไผ่ตลอดลำน้ำ ตะกอง (Indochinese Water Dragon) เป็นกิ้งก่ายักษ์ชนิดเดียวที่พบในประเทศไทย และพบได้เฉพาะในภาคตะวันออกของประเทศเท่านั้น (รวมถึงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่) ถิ่นอาศัยตามธรรมชาติส่วนใหญ่ อยู่ในประเทศแถบอินโดจีน (ลาว เขมร เวียดนาม)

ป่าชายเลนดึกดำบรรพ์

การเข้าไปสัมผัสป่าชายเลนดึกดำบรรพ์ที่ชายฝั่งทะเลของจังหวัดตราด ซึ่งยังคงมีความเป็นธรรมชาติดั้งเดิม ให้ความรู้สึกแบบดิบๆ ที่ชุมชนท่าระแนะและชุมชนไม้รูด ชมวิวและได้เห็นถึงวิถีชีวติของชาวประมงพื้นบ้าน และร่วมกิจกรรมปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์แหล่งอาหารของชุมชนที่สำคัญนี้ ให้ยั่งยืนตลอดไป ขากลับนั่งเรือชมหิ่งห้อยสองข้างทางสัมผัสความสวยงามของแสงธรรมชาติ

ศาลาราชการุณย์

ทำความรู้จักกับประวัติศาสตร์ของตราดผ่านอนุสรณ์ที่สำคัญ “ศาลาราชการุณย์” บอกเล่าเรื่องราวของสงครามกลางเมืองในเขมรและมนุษยธรรมที่ไร้พรมแดนระหว่างสองประเทศได้อย่างน่าประทับใจ สถานที่ตั้งซึ่งสวยงามบนชายฝั่งทะเลของบ้านไม้รูดนี้เคยเป็นค่ายอพยพและมีเรื่องราวมากมายให้เราได้เรียนรู้และซาบซึ้งใจ

ศาลเจ้าแม่ทับทิม

สักการะ “ศาลเจ้าแม่ทับทิม” ศาลเจ้าแม่ทับทิมคลองใหญ่ จัดสร้างขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. ใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด แต่พอประมาณได้จากการบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 70 ปีกว่ามาแล้ว โดยองค์เจ้าแม่ลอยน้ำมาบริเวณทะเลอำเภอคลองใหญ่ ชาวบ้านร่วมกันอัญเชิญองค์เจ้าแม่ ซึ่งเป็นไม้แก่นจันทร์แกะสลัก เป็นรูปผู้หญิง ขึ้นจากทะเลและได้ร่วมกันสร้างศาลให้เจ้าแม่

เจ้าแม่ทับทิมเป็นที่นับถือและศรัทธามาแต่ช้านาน เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ของชาวอำเภอคลองใหญ่ ทั้งยังเป็นที่สักการบูชากราบไหว้ขอพร ตามความเชื่อของพี่น้องชาวประมงอีกด้วย ด้วยแรงศรัทธาขอพรทำมาหากิน ขอโชคขอลาภ ซึ่งกิตติศัพท์ของความศักดิ์สิทธิ์ขององค์เจ้าแม่ทับทิมคลองใหญ่นี้ได้ขจรขจายไปสู่ที่ต่างๆ ทำให้มีผู้ที่เคารพเลื่อมใสในองค์เจ้าแม่ นำเครื่องเซ่นไหว้มาเป็นประจำทุกวันจนเป็นกิจวัตรประจำวันของศาลเจ้าแม่ฯแห่งนี้

ความงามสามวัฒนธรรม ไทย จีน และญวน

สัมผัสความงามสามวัฒนธรรม ความงามข้ามพรมแดนของชุมชนชาวคลองใหญ่ เรียนรู้การอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนและผสมผสานกันอย่างลงตัวจากคนสามวัฒนธรรมไทย จีน และญวน สนุกสนานกับการเรียนรู้ของวิถีชีวิต อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นบ้าน สนุกต่อกับการเดินหรือปั่นจักรยานเที่ยวเวิ้งประวัติศาสตร์ชุมชนเก่าแก่ของจันทบุรี อย่าง ชุมชนบางกะจะ หรือการเดินทอดน่องเที่ยวชมชุมชนตลาดคลองใหญ่ สงบและสะอาดอย่างน่าประทับใจ ในจังหวัดชายแดนอย่างตราด

ระบบนิเวศป่าชายเลนเก่าแก่

ชมความงามอันน่าอัศจรรย์ของระบบนิเวศป่าชายเลนเก่าแก่ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่หมู่บ้านท่าระแนะ ป่าชายเลน 1 ใน สถานที่ท่องเที่ยว Unseen แห่งจังหวัดตราด ความมหัศจรรย์อยู่ตรงที่ การนั่งเรือไปลานตะบูน 10 นาที เราจะผ่านช่วงป่าในคลองถึง 3 ป่า คือ ป่าโกงกาง ป่าจากและป่าตะบูน สิ่งที่ทำให้ป่าตะบูนแห่งนี้มีความอัศจรรย์คือ รากของต้นตะบูนที่ขึ้นอยู่ตามพื้นจำนวนมากที่ทำให้ลานตะบูนแห่งนี้มีความสวยงามและให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในป่าดึกดำบรรพ์

อุโมงค์สวนยาง บ้านจำรุง ตำบลเนินฆ้อ

เที่ยวชุมชนบ้านปัถวี

เที่ยวชุมชนบ้านปัถวี ฟังบรรยาย ธนาคารผึ้งชันโรง ชมสวนผลไม้ด้วยสามล้อเครื่อง เรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทของผึ้งในการทำสวนเกษตรอินทรีย์ ชมและชิมผลไม้สดๆ จากเกษตรอินทรีย์ปัถวีโมเดล ไปเที่ยวต่อที่ชุมชนบ้านจำรุง นั่งรถรางเที่ยวชมวิถีชีวิตของชาวสวนผลไม้

ป่าชายเลน สะพานรักษ์แสม

และเที่ยวชมป่าชายเลน “สะพานรักษ์แสม” ซึ่งเป็นสะพานที่ชาวบ้านร่วมกันสร้างไม้ข้ามไปอีกฝั่ง เพื่อเดินทางไปดูแลคอกปูแสม พันธุ์สัตว์น้ำและป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ และมีการเปลี่ยนมาสร้างเป็นสะพานแขวนที่สวยงามมีความยาว 80 เมตร เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติไม่ขวางทางเรือที่สัญจรไปมา พร้อมทั้งยังสร้างสะพานเดินชมป่าชายเลนยาว 90 เมตร เพื่อชมความงามตามธรรมชาติของริมคลองสองฝั่ง ต้นโกงกางและต้นแสมอายุกว่า 100 ปี

คุณศรีพิจิตต์ เติมชัยเจริญศักดิ์คุณธิติ จันทร์แต่งผลคุณทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) กล่าวว่า … ด้วยความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวที่ในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออกของประเทศไทย จึงเป็นตัวเลือกระดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ตัดสินใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อพท. ในฐานะหน่วยงานกลางในการประสาน ส่งเสริม และสนับสนุนทุกภาคีให้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในเชิงบูรณาการเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาด ให้แก่แหล่งท่องเที่ยว โดยชุมชนในระดับประเทศ และส่งต่อศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงาม ของชุมชนท้องถิ่นภาคตะวันออกของประเทศไทยสู่ระดับสากล ตลอดจนสร้างและกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวสู่คนในชุมชนท้องถิ่นโดยตรง

อพท. หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมและแหล่งท่องเที่ยว โดยชุมชนในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออก ของประเทศไทย จะเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเลือกเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว เพื่อร่วมเรียนรู้และเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ไปกับชุมชนท้องถิ่น “เพราะการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวเพื่อความสนุก แต่เป็นการค้นหาความสุขอย่างแท้จริง”

ที่มา อพท.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง