ขอ 3 คำ – ที่มาของประโยคนี้ ทำไมต้อง ขอสามคำ

ช่วงนี้คนฮิตคำนี้มาก ขอ 3 คำ จนเราเองก็สงสัย มันคืออะไรกันนะ วันนี้มีคำตอบมาฝากค่ะ….

เรื่องนี้มันมีที่มา ตั้งแต่สมัยอริสโตเติล แต่เพิ่งจะ Pop เป็นพลุแตก ก็คราวที่ สตีฟ จ็อบส์ ใช้เป็นกลยุทธ์ ขาย สินค้าใหม่ของตระกูลแอปเปิ้ลทั้งหลาย  เพราะว่ากันว่าส่วนหนึ่งที่ น้อง “ไอ” ทั้งหลาย ฮิตติดยอดนั้น  มาจากวิธีนำเสนอของ จ็อบส์ ในวันแนะนำสินค้า และมาจากโฆษณา ซึ่งมีแก่นอยู่เพียง 3 ใจความสำคัญ อย่าง คุณสมบัติของ Ipad 2 ใช้  thin, Light, Fast  และหลักการนี้ ก็ยังถูกใช้แนะนำ  Ipad ตัวล่าสุด คือ  Stunning Display, 5 MP camera and Ultrafast

ที่มาของประโยคนี้ ทำไมต้อง ขอสามคำ

กฎ  “Rule of 3”

ย้อนกลับมาที่อริสโตเติล ซึ่งเป็นผู้ค้นพบกฎ  “Rule of 3” ที่ทดลองจนได้ผลว่า สมองคนเราจะ จดจำ ของสามสิ่ง หรือ 3 อันดับได้ดีที่สุด โดยกฎนี้ถูก นักการเมือง และผู้นำทหารระดับโลกได้นำไปใช้  ตัวอย่างที่พิสูจน์ผลทดลองของกฎนี้  คือ ประโยคเด็ดที่ถูกจารึกในประวัติของ วินสตัน เชอร์ชิลล   ก็ถูกจดจำได้เพียงแค่ 3 คำคือ  I can promise you nothing but blood sweat and tears ทั้งที่ความจริงยังมีอีก 1 คำ คือ Toil (การต่อสู้)

และแม้ในยุคหลังๆ จะมีการค้นพบใหม่ว่า คนเราสามารถจำเลขได้ถึง 7 ตัว (นี่คือ ที่มาของ ชุดตัวเลข โทรศัพท์) แต่ถ้าเราทบทวนลึกลงไปจะเห็นว่า  ในชุดเลข 7 ตัว เวลาเราเรียงคำ เพื่อจดจำ เราก็ยังแบ่งการจำของเราออกเป็นชุดละ 3 เช่น 08-1234-5678

ถ้าวันนี้ ขอ 3 คำ ให้ประเทศไทย ขอเสนอ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ใครเห็นด้วย ยกมือขึ้น !!

(หมายเหตุ ขอ3คำ : เกรียนติดจอ โดย… โศภิน  เงินสวัสดิ์ ) จาก komchadluek.net

ส่วนข่าวที่มีกระแสอยู่ตอนนี้ จนทำให้มีคนตั้งกระทู้ “ขอ 3 คำ ให้คุณน้องแอนนี่ค่ะ” ก็มีคนมาช่วยตอบ เช่น

– เลย จุด นั้น

– จุด ไหน แล้ว

– อยาก จบ แล้ว

– ยัง ไม่ จบ

– นา ธาน สอง

– อาย ลูก บ้าง

– หน้า ไม่ อาย

– ช้า  ไป  แล้ว

– แถ ไป เรื่อย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง