หลังจากที่ วงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังแห่งวงการ K-Pop อย่าง SNSD หรือ Girls’ Generation เพิ่งจะฉลองครบรอบ 10 ปีไปได้เพียงไม่นาน กับอัลบั้มชุดที่ 6 Holiday Night ก็ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง และเรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่จริงๆ เพราะล่าสุด!! สมาชิก 3 คนของวง ได้แก่ ซูยอง ทิฟฟานี และซอฮยอน ได้ตัดสินใจที่จะไม่ต่อสัญญากับทางค่าย SM Ent. ส่วนสมาชิกที่เหลือทั้ง 5 คน ได้แก่ แทยอน ยุนอา ฮโยยอน ยูริ และซันนี่ ได้ทำการต่อสัญญาใหม่กับทาง SM Ent. และนี่ก็สร้างความช็อคให้กับแฟนๆ เป็นอย่างมากเลยทีเดียว
10 ปี Girls’ Generation – โซนยอชิแด กับ 10 ปี ในวงการ K-Pop
โดย เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา SM Entertainment ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับข่าวดังกล่าวแล้วว่า “Girls’ Generation เป็นวงที่มีค่าและมีความหมายกับทั้ง SM Ent. และแฟนคลับเป็นอย่างมาก สมาชิกไม่ได้คิดถึงการยุบวง อย่างไรก็ตามมีสมาชิก 3 คนที่ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับทางค่าย เส้นทางอนาคตของ Girls’ Generation ในการโปรโมทนั้นจะมีการตัดสินใจอย่างระมัดระวัง หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับสมาชิกในวงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
เส้นทางของทั้ง 3 สาว
นอกจากนี้ SM Ent. ยังได้เปิดเผยต่ออีกด้วยว่า “ซูยองและซอฮยอน จะหันไปโฟกัสเรื่องการแสดงมากขึ้น ทั้งละครเวทีและภาพยนตร์ตามความตั้งใจ ในขณะที่ ทิฟฟานี่ ได้วางแผนเดินทางไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ จึงตัดสินใจไม่ต่อสัญญา ซึ่งขณะนี้ทั้ง 3 คน ได้ลบคำว่า Girls’ Generation ออกจากอินสตาแกรมส่วนตัวแล้ว” ซึ่งทำให้สมาชิกวงเหลือเพียง 5 คนเท่านั้น
สำหรับใครที่อยากจะทำความรู้จักกับสาวๆ Girls’ Generation เกิร์ลกรุ๊ปชื่อสุดฮอตจากเกาหลีใต้วงนี้ วันนี้ แคมปัส-สตาร์ จะพาทุกคนไปรู้จักกับพวกเธอกัน…
Girls’ Generation
Girls’ Generation หรือ โซนยอชิแด (So Nyeo Shi Dae : SNSD) เป็นนักร้องวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังจากประเทศเกาหลีใต้ ภายใต้สังกัด SM Entertainment โดยได้เดบิวต์เมื่อปี พ.ศ. 2550 ประกอบด้วยสมาชิก 9 คน ได้แก่
- ยุนอา (อิม ยุนอา : Im Yoona)
- ทิฟฟานี่ (สเตฟานี่ ฮวัง : Tiffany Hwang)
- เจสสิก้า (จอง ซูยอง : Jung Soo-yeon)
- ยูริ (ควอน ยูริ : Kwon Yu-ri)
- ฮโยฮยอน (คิม ฮโยฮยอน : Kim Hyo-yeon)
- ซูยอง (ชเว ซูยอง : Choi Soo-young)
- ซอฮยอน (ซอ จูฮยอน : Seo Joo-hyun)
- แทยอน (คิม แทยอน : Kim Tae-yeon)
- ซันนี่ (ลี ซุนกยู : Lee Soon-kyu)
เส้นทางการเข้าเป็นสมาชิก SNSD
สมาชิกคนแรกของกลุ่มจากการเป็นเด็กฝึกหัดในค่าย SM Ent. ก็คือ เจสสิก้า เข้ามาในปี พ.ศ. 2543 ซึ่งสาวเจสสิก้าได้ถูกพบโดยแมวมองในห้างสรรพสินค้า ตามมาด้วย ซูยองและฮโยฮยอน ที่ได้เข้ามาในค่ายโดยการออดิชั่นในปี พ.ศ. 2543 และต่อมาด้วย ยูริ ที่เข้ามาเป็นเด็กฝึกหัดในค่าย จากการประกวดเต้น เอสเอ็มเบสท์แดนเซอร์ ปี พ.ศ. 2544 หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2545 ยุนอา ก็ได้ผ่านการออดิชั่นของค่ายเข้ามาร่วมวง ส่วนมักเน่ของวง ซอฮยอน ถูกพบโดยแมวมองของค่ายที่สถานีรถไฟใต้ดิน หลังจากนั้นเธอก็ได้เข้ามาออดิชั่นในปี พ.ศ. 2546 ด้วยการร้องเพลง
ซึ่งหลังจากนั้น แทยอน ก็ได้เข้ามาร่วมวงในปี พ.ศ. 2547 หลังจากการชนะเลิศการประกวดร้องเพลงในรายการของค่าย SM Ent. โดยในปีเดียวกัน ทิฟฟานี่ ก็ได้เข้าร่วมการออดิชั่น หลังถูกทาบทามจากทางค่าย และได้ร่วมงานกับบริษัทในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2547 และสมาชิกคนสุดท้ายของวงก็คือ ซันนี่ โดยสาวซันนี่ได้เป็นเด็กฝึกหัดในค่ายเป็นเวลา 5 ปี ก่อนที่จะจัดสินใจย้ายไปที่บริษัทสตาร์เวิลด์ เพื่อที่จะได้เดบิวต์เป็นศิลปินดูเอ็ตที่มีชื่อว่า ชูการ์ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เดบิวต์ จนในปี พ.ศ. 2550 ซันนี่ ก็ตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่ที่ค่าย SM Ent. เช่นเดิม และก็ได้กลายเป็นสมาชิกของ SNSD ในเวลาต่อมา…
2550 เปิดตัวซิงเกิลแรก
โดย สาวๆ Girls’ Generation ได้เปิดตัวด้วยซิงเกิลแรกที่มีชื่อว่า Into the New World ที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อเดือน สิงหาคม พ.ศ. 2550 และพวกเธอได้ขึ้นโชว์เพลงเปิดตัวเพลงแรกในรายการ SBS’s Inki Gayo เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมปีเดียวกัน หลังจากเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการในรายการ M! Countdown ที่มีการเผยแพร่คลิปแต่ทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น
เพลงที่ทำให้ทุกคนไดรู้จัก SNSD : Gee
ต่อมา ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2550 Girls’ Generation ก็ได้ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรกออกมาในชื่อ So Nyeo Shi Dae และด้วยความน่ารัก สดใส พร้อมท่าเต้นที่ดูน่ารักของพวกเธอ ทำให้ Girls’ Generation ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่สำหรับซิงเกิลที่ทำให้ Girls’ Generation กลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่มีชื่อเสียงไปทั่วทั้งประเทศและแพร่ความนิยมไปทั่วเอเชียและทวีปอื่นๆ นั้น มาจากเพลงที่มีชื่อว่า Gee จากมินิอัลบั้มชุดที่ 1 ที่ฮอตฮิตติดตลาดจนได้รับการขนานนามว่าเป็น “เพลงแห่งทศวรรษประจำเกาหลีใต้” ซึ่งหลังจากนั้น สาวๆ Girls’ Generation ก็ยังคงได้รับกระแสตอบรับจากแฟนๆ เป็นอย่างดี และได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในช่วง พ.ศ. 2553-2554 พวกเธอก็ได้ปล่อยทั้งซิงเกิลออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Tell Me Your Wish, Run Devil Run, Oh! และ Hoot ฯลฯ
2554 เปิดตัวอัลบั้มใหม่ : The Boys
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2554 Girls’ Generation เริ่มมีกิจกรรมโปรโมทในประเทศญี่ปุ่น และได้รับการตอบรับจากแฟนๆ ชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างดี หลังจากที่ทำกิจกรรมที่ญี่ปุ่นเสร็จแล้ว พวกเธอก็กลับมาพร้อมกับซิงเกิลใหม่ก็คือ The Boys ซึ่งจัดทำเป็นสามภาษา ได้แก่ เกาหลี ญี่ปุ่น และอังกฤษ ทำให้พวกเธอสามารถกวาดยอดขายอัลบั้มและซิงเกิลทั้งหมดได้อยู่ที่ 11,730,000 หน่วยด้วยกัน ทำให้พวกเธอถูกยกให้เป็น “ผู้สร้างความบันเทิงซึ่งมีอิทธิพลมากที่สุด ประจำปี 2554 และ 2555” จากความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นในเกาหลีใต้ยังทำให้พวกเธอได้อยู่ในกลุ่มของ “นักร้องประจำชาติ” และ “ลุ่มนักร้องหญิงแห่งชาติ” อีกด้วย
ปี 2555 เปิดยูนิตย่อย
ในปี พ.ศ. 2555 Girls’ Generation ได้เปิดตัวยูนิตย่อยของวงในชื่อ Girls’ Generation-TTS หรือ TaeTiSeo (แททิซอ) ประกอบด้วยสมาชิก 3 คน คือ แทยอน ทิฟฟานี่ และซอฮยอน โดยได้ปล่อยอัลบั้มที่มีชื่อว่า Twinkle ออกมา แลใช้เพลงโปรโมทเพียงเดียวกับชื่อของอัลบั้ม และในเวลาต่อมาปี พ.ศ. 2557 ก็ได้ปล่อยอัลบั้มที่ 2 ออกมา โดยมีชื่อว่า Holler และก็ได้ใช้เพลงโปรโมทชื่อเดียวกับอัลบั้ม โดยที่ทั้งสองอัลบั้มของยูนิต TTS ก็ได้รับกระแสตอบรับจากแฟนๆ เป็นอย่างดี โดยที่ซิงเกิล Twinkle ยังสามารถขึ้นสูงสุดเป็นอันดับที่ 126 บนชาร์ต Billboard (เป็นอันดับที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในอัลบั้มเคป๊อปขณะนั้น)
ปี 2556 คัมแบค เปลี่ยนลุคเป็นฮิปฮอป
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2556 Girls’ Generation ก็ได้คัมแบคกลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มที่มีชื่อว่า I GOT A BOY ซึ่งสาวๆ ก็ได้เปลี่ยนลุคเป็นสาวฮิปฮอปสุดเท่ และเมื่อเพลงนี้ถูกปล่อยออกมาก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากแฟนๆ และกลายเป็นเพลงที่ฮิตทั้งในประเทศและทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยได้เปิดตัวอันดับที่ 1 บนชาร์ต Billboard ตามมาด้วยการแสดงสดและทัวร์คอนเสิร์ต Girls’ Generation World Tour Girls & Peace ทั้งในประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และในอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลก
ปี 2557 การเปลี่ยนแปลง… เจสสิก้า
ต่อมาในปี พ.ศ. 2557 Girls’ Generation ก็ต้องพบกับการเปลี่ยนแปลง โดยที่หนึ่งในสมาชิกของวง เจสสิก้า ได้ประกาศลาออกจากวง จนทำให้เหลือสมาชิกในวงเพียงแค่ 8 คนเท่านั้น ซึ่งในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559 Girls’ Generation ได้วางจำหน่ายซิงเกิล “Sailing (8025)” ในการฉลองปีที่ 9 ของวงนับตั้งแต่ได้เดบิวต์มา เนื้อเพลงแต่งโดย ซูยอง (อดีตสมาชิกในวง) ซึ่งเป็นการพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในวงกับแฟนเพลง นั่นเอง
2560 ครบรอบ 10 ปี
และหลังจากนั้น ในวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2560 Girls’ Generation ก็ได้ปล่อยอัลบั้มครบรอบ 10 ปี ที่มีชื่อว่า Holiday Night ออกมา ซึ่งอัลบั้มนี้ได้ทำลายสถิติ อัลบั้มภาษาเกาหลีที่มียอดขายสูงที่สุด หลังจากที่อัลบั้ม The Boys ของวงเคยทำไว้ โดยอัลบั้มนี้สามารถขึ้นอันดับสูงที่สุดในชาร์ต Billboard และอัลบั้มนี้ยังสามารถมียอดขายสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของ ชาร์ตยอดขายอัลบั้ม ของแกออนชาร์ต อีกด้วย และนี่ก็ได้กลายเป็นอัลบั้มสุดท้ายของ Girls’ Generation ที่มีสมาชิกครบทั้ง 8 คน… สำหรับเส้นทางการโปรโมทของสมาชิกทั้ง 5 คน จะเป็นอย่างไรก็ต้องติดตามกันต่อไปนะจ๊ะ
เพลง ‘All Night’ ในอัลบั้มชุดที่ 6 ‘Holiday Night’
เพลง ‘Holiday’ ในอัลบั้มชุดที่ 6 ‘Holiday Night’
ที่มาของชื่อวง Girls’ Generation
โดย Girls’ Generation มีชื่อเป็นภาษาเกาหลีว่า โซนยอชิแด ซึ่งเป็นคำรากศัพท์ แปลเป็นภาษาเกาหลีว่า “ยุคของหญิงสาว” พวกเธอยังเป็นที่รู้จักในชื่อ โซชิ หรือ SNSD ซึ่งชื่อทั้งสองถูกเรียกแบบย่อมาจากชื่อของกลุ่มในภาษาเกาหลี และเนื่องจากชื่อของกลุ่มมีคำยืมจากภาษาจีน ทำให้ชื่อของกลุ่มในจีนและญี่ปุ่นคล้ายคลึงกัน ในญี่ปุ่นชื่อของกลุ่มออกเสียงว่า โชโจจิได ส่วนในภาษาจีนกลางออกเสียงว่า เช่านฺหวี่ฉือไต้
สำหรับชื่อกลุ่มแฟนคลับของสาวๆ Girls’ Generation คือ โซวอน (SONE)
โดยที่ SONE เป็นชื่อเรียกแฟนคลับ SOSHI-SONE มาจาก คำว่า So ซึ่งมาจากชื่อ So Nyeo Shi Dae และคำว่า One ที่แปลว่า หนึ่ง (ในภาษาอังกฤษ) หรือแปลว่า รวมเป็นหนึ่ง ดังนั้นจึงมีความหมายคือ แฟนคลับของสาวๆ ทั่วโลกรวมเป็นหนึ่งเพื่อ SOSHI
รวมภาพสาวๆ Girls’ Generation
ข้อมูลและภาพ : http://yeinjee.com, www.soompi.com, FB 소녀시대(Girls’ Generation), www.soshified.com, https://allkpop.com, www.billboard.com