Top 5 Book ดีเจ อาร์ม พิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์

เป็นทั้งพิธีกร ดีเจ และผู้บริหาร Armadillo บริษัทรับดีไซน์ด้านกราฟฟิก,จัดอีเว้นท์ และอยู่เบื้องหลังในการผลิตรายการทีวีมากมาย เพื่อสร้างสรรค์การทำงานให้มีประสิทธิภาพ หนุ่มอารมณ์ดีที่มีรอยยิ้มอบอุ่นอย่าง ‘อาร์ม-พิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์’ จึงชอบหาความรู้ใส่ตัว ด้วยการอ่านหนังสือหลากหลาย ทั้งแนววิทยาศาสตร์ วรรณกรรม สถาปัตยกรรม รวมไปจนถึงการ์ตูนแนวมังงะที่เขาบอกว่าเป็นแนวโปรดมากที่สุด เพราะอ่านแล้วสนุก คลายเครียด ทำให้เกิดจินตนาการ ส่งผลให้สามารถสร้างสรรค์ไอเดียในการทำงานได้เป็นอย่างดี ถึงจะอ่านหลากหลายแต่ หนังสือ 5 เล่มต่อไปนี้เขาบอกว่าคือ 5 เล่มที่เขาอ่านแล้วรู้สึกชอบมากเป็นพิเศษ มีอะไรบ้างตามมาดูพร้อมกันเลยค่ะ >.<

การ์ตูนแนวมังงะ คือหนึ่งในหนังสือเล่มโปรดของ ดีเจ อาร์ม

อ่านหลากหลายแบบผู้ชายอารมณ์ดี สไตล์ อาร์ม พิพัฒน์

ภาพ:http://cartoon.mthai.com/story/42.html

One Piece

ที่ชอบอ่านมากเพราะเขาเขียนตัวละครแต่ละตัวให้มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน และก็ประทับใจที่เขาสอนให้เห็นถึงมิตรภาพความเป็นเพื่อน และมุ่งมั่นของทุกคนที่จะไปให้ถึงฝัน ซึ่งก็คือ One Piece หรือสมบัติโจรสลัดที่มีชิ้นเดียวในโลก เนื้อเรื่องในแต่ละตอนเขาเล่าเรื่องโดยการใช้จินตนาการแต่อยู่บนหลักของความเป็นจริง อย่างตอนที่ต้องลงไปเมืองนางเงือก ตัวละครที่อยู่บนบกจะลงไปใต้น้ำได้ก็ต้องมีอากาศหายใจ จึงเอาอากาศใส่บับเบิ้ลแล้วหุ้มเรือเพื่อที่จะได้หายใจได้เวลาตัวละครลงไปใต้น้ำ หรือจะขึ้นไปบนสวรรค์ได้นั้นเรือก็จะต้องวิ่งบนกระแสน้ำในช่วงวันเวลาที่น้ำขึ้นสามารถดันเรือให้ขึ้นไปบนท้องฟ้าได้ สิ่งที่ได้นอกจากความสนุกเพลิดเพลินแล้ว ผมยังได้แรงบันดาลใจเอามาปรับใช้กับงานได้เยอะเลย อย่างการทำรายการเกี่ยวกับเด็กก็ช่วยให้จินตนาการการออกแบบฉากรายการได้ง่ายขึ้น และก็ช่วยออกแบบคาแรคเตอร์ร้านอาหารข้าวหน้าเนื้อของพี่ชายผมเองซึ่งตอนนี้เปิดอยู่ที่สยาม ล่าสุดตอนนี้คิดจะทำ Art Monster เป็น Play Book แจกฟรีให้เด็กๆ ได้วาดเล่นเสริมสร้างจินตนการ รอสมทบทุนอยู่ (ยิ้ม)

ภาพ:https://www.amazon.com/Chance-Sunshine-Creative-Editions/dp/156846133X

A Chance of Sunshine

เป็นหนังสือของ Jimmy Liao นักวาดภาพประกอบ ที่แต่เดิมทีเขาเป็นนักโฆษณา และก็นักกราฟฟิกวาดรูป แรกๆ เขาจะวาดออกแนวฮาร์ดๆ แรงๆ หน่อย จนวันนึงหมอบอกว่าเขาป่วยเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาว อยู่ได้อีกไม่ถึงปี เขาก็เลยลาออกจากงานมาอยู่บ้าน ดูแลตัวเอง ปรากฎเมียเดินมาบอกว่าท้อง ซึ่งมันก็เป็นจุดที่ทำให้เขาหันมาวาดรูปบำบัดจิตใจตัวเอง ปรากฏว่าจากตอนนั้นถึงตอนนี้เขาก็อยู่มาได้ 13 ปีแล้ว และทำหนังสือออกมาหลายเล่มเลย แต่ที่ดังมากๆ ก็มีเรื่องนี้แหละ ดังจนเขาขอลิขสิทธิ์ไปทำหนัง ชื่อเรื่อง Turn Left, Turn Right (ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา) ที่ทาเคชิเล่นเป็นพระเอก คือผมชอบภาพสีน้ำในเรื่องนี้มาก ผมมองว่าบางทีภาพวาดสื่อได้ดีกว่าตัวอักษร ซึ่งในเรื่องนี้เขาเล่าถึงเรื่องของผู้หญิงผู้ชายที่มาเจอกันด้วยเหตุบังเอิญ แล้วก็ได้คุยกัน รู้สึกดีต่อกัน ในระยะเวลาวันนั้นวันเดียว ก็แลกเบอร์โทร แล้วก็แยกจากกันไป แต่ระหว่างทางกลับโชคชะตาเล่นตลก ฝนดันตก!! เบอร์โทรของเขาทั้งสองคนได้หายไป ทั้งคู่ก็ทุรนทุรายต่างฝ่ายต่างคิดถึง และรอให้อีกฝ่ายโทรหา ทั้งที่จริงๆ แล้วทั้งคู่อยู่ห้องติดกัน มีแค่กำแพงที่กั้นอยู่ เพียงแต่ว่าทุกเช้าอีกคนเดินลงมาเลี้ยวซ้าย อีกคนเดินลงไปเลี้ยวขวา แล้วก็ไม่เคยเจอกันเลย คือทำให้เราเห็นได้ว่า บางทีคนที่อยู่รอบๆ ตัวเรา อาจจะเป็นเนื้อคู่ หรือคนที่เราตามหาอยู่ก็ได้ เพียงแต่เราต้องหยุดแล้วหันกลับไปมอง หนังสือเรื่องนี้ตัวอักษรน้อยมาก แต่ภาพเขาสื่อเรื่องราวได้ชัดเจน

ภาพ:http://www.arquivopassional.com/2013/06/resenha-inferno-dan-brown.html

Inferno

ด้วยความที่ผมเรียนสถาปัตย์ฯ ซึ่งก็จะต้องเรียนเกี่ยวกับพวก Architecture สถาปัตยกรรมในยุคปัจจุบัน กับยุคโบราณ ซึ่งสำหรับผมสถาปัตยกรรมโบราณดูมีเสน่ห์มากกว่า แล้ว Dan Brown เขาจะเป็นนักเขียนที่ชอบเขียนเรื่องสั้น โดยมีการอ้างอิงถึงสถาปัตยกรรมโบราณ ซึ่ง Da Vinci Code เป็นเรื่องที่ผมเริ่มต้นอ่านงานของเขา สำหรับ Inferno เป็นเรื่องที่พูดถึงกวีบทเก่าของดันเต ซึ่งเป็นบทคำสอนสมัยก่อนของพระเยซูคริสต์ ว่าทำผิดตกนรก แต่คนทั่วไปไม่กลัว นักวาดภาพที่ชื่อดันเต เขาก็เลยวาดภาพประตูนรกซึ่งทำออกมาให้คนได้เห็นว่าประตูนรกนั้นน่ากลัวมากขนาดไหน และเขาก็กล่าวถึงจำนวนประชากรโลกในปัจจุบัน หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เรามีจำนวนประชากรสี่พันล้านคน ซึ่งมากเกินกว่าที่โลกรับได้อยู่ถึง 4 เท่า ซึ่งต่อไปสิ่งที่น่ากลัวที่สุดจริงๆ สำหรับมนุษย์ก็คือมนุษย์ด้วยกันเอง เพราะพอถึงวันนึงคุณจะยอมฆ่าคนอื่น เพื่อให้ลูกตัวเองได้อิ่มท้อง โดยไม่สนว่าใครจะเป็นยังไง ซึ่งเราก็ดูได้จากทุกวันนี่้ คนรวยก็รวยจัด จนก็จนมาก และก็ยังมีมีประเด็นเรื่องเกี่ยวกับเชื้อโรคที่อาจจะมีบางคนยอมเป็นผู้ร้ายปล่อยสายพันธุ์เชื้อโรคออกมาทำให้มนุษย์ตายเพื่อลดจำนวนประชากร แล้วก็บังเอิญลิงค์กับเหตุการณ์ในช่วงนี้ที่กำลังมีอีโบล่าระบาด คือหนังสือจะมีแนวคิดอะไรประมาณนี้ และในปัจจุบันก็มีจริงๆ นะ อย่างเช่นลัทธิฆ่าตัวตาย คือ Dan Brown เขาเป็นนักเขียนที่รีเสิร์ชข้อมูลได้ดีเยี่ยม เหมือนกับว่าคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ เวลาที่ผมอ่านทำให้ได้ตระหนักถึงปัจจุบันได้ดี และถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะตามไปดูสถาปัตยกรรมในสถานที่ต่างๆ ที่เขาได้กล่าวถึงในหนังสือด้วย

ภาพ:https://www.amazon.com/National-Geographic-Kids-Almanac-Quality/dp/1426309244

National Geographic Kids

เป็นหนังสือที่มีเรื่องราวที่คาดไม่ถึงเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับทางด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งผมจะอ่านเพื่อเป็นความรู้ และหาข้อมูลมาเป็นคำถามเด็กๆ ที่มาร่วมสนุกในรายการAction Zone ที่ผมทำอยู่ เช่น รู้ไหมว่า พืชที่ขึ้นไปปลูกบนอวกาศครั้งแรกคือต้นอะไร คำตอบก็คือต้นโหระพา เพราะมันมีคุณสมบัติขึ้นง่ายปลูกง่าย เขาก็เลยนำขึ้นไปปลูกในกระสวยอวกาศ และโหระพายังมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า นางพญาร้อยชู้ เพราะปลูกที่ไหนก็ขึ้นง่าย เปรียบเหมือนกับผู้หญิงหลายใจที่รักใครได้ง่ายๆ คือความรู้ในบางเรื่องก็เป็นสิ่งใกล้ตัวที่เราอาจมองข้าม สนุกดีนะ เหมือนได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

ภาพ:www.asa.or.th

ASA

อาษา (ASA) ย่อมาจาก The Association of Siamese Architects under the Royal Patronage of His Majesty the King) เป็นหนังสือที่สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมถ์ให้สถาปนิกทุกคนสมัครสมาชิก แล้วจะมีการแจกหนังสือให้ทุกเดือน ซึ่งจะเป็นหนังสือที่มีเรื่องราวในแวดวงของงานออกแบบ สถาปัตยกรรม องค์ความรู้ใหม่ๆ จากนักออกแบบทั่วโลก และก็เป็นเหมือนหนังสือข่าวของเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่เรียนสถาปัตย์ ประจวบเหมาะกับว่าผมทำรายการ HoomRoom ซึ่งเป็นรายการที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่ง การเลือกใช้วัสดุอปุกรณ์ มาบอกเล่าให้เป็นความรู้ให้คนดู เช่น การเดินท่อในบ้านแบบสไตล์ลอฟท์ ถ้าใช้ท่อเหล็กเดินลงมากับสายไฟ หลายคนอาจจะคิดว่าแพง แต่เราก็นำเสนอให้เห็นว่า ท่อแบบนี้เมตรนึงราคา 35 บาท แต่ถ้าคิดว่าแพงก็มีเกรดต่ำลงมาหน่อยเมตรละ 32 บาท และหนังสือเล่มนี้เขาก็จะมีคอนเทนต์ใหม่ๆ ให้เราได้อัพเดทไปเล่าในรายการ

ประวัติการศึกษา

-โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย

-จบการศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2

ผลงาน

ดีเจคลื่น Cool 93 Fahrenheit เวลา12.30-15.00 น.
พิธีกรรายการ บ้านพระราม 4 ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 8.00 – 10.00 น. ทางช่อง SD28
พิธีกรรายการ นักคิดตะลุยอาเซียน ช่อง MCOT ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 18.00-19.00 น.
พิธีกรรายการ Action Zone ช่อง True Spark ทุกวัน เวลา 18.30-20.00 น.
พิธีกรรายการ The Kids Are All Right เด็กอัจฉริยะ ท้าประลอง

รายการที่ผลิต

-สอนศิลป์ ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 16.45 – 16.55 น. ช่อง ThaiPBS
-Megamind คิดการใหญ่ ทุกวันเสาร์ เวลา 08.30 – 09.30 น.
-Homeroom ช่วงเยี่ยมบ้าน ช่อง ThaiPBS

ช่องทางการติดตาม

IG: @armpipat
Twitter: @armpipat
FB: https://www.facebook.com/pages/Armpipat/269270823116177?fref=ts

เขียนโดย: La Sable (จาก its แมกกาซีน issue 8), ภาพจาก: IG @armpipat,www.mbookstore.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง